เบร็กซิท : สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงการค้าแล้ว
สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป บรรลุข้อตกลงการค้าหลังสหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ เบร็กซิท แล้ว หลังจากเจรจากันมานานหลายเดือน เกี่ยวกับสิทธิในการทำประมง และกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในการทำธุรกิจในอนาคต
ทำเนียบนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ระบุว่า "เราทำเบร็กซิทสำเร็จแล้ว และตอนนี้เราสามารถที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสอันยอดเยี่ยมที่เรามีอยู่ได้อย่างเต็มที่"
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร เตรียมจะเปิดแถลงข่าวเพื่อประกาศข้อตกลงดังกล่าว ในเวลาอีกไม่นาน
ขณะที่นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) กล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมว่า "นี่เป็นหนทางที่ยาวนานและคดเคี้ยว แต่เราก็ได้ข้อตกลงที่ดีมาแล้ว"
"มันเป็นข้อตกลงที่เป็นธรรม สมดุล เป็นสิ่งที่ถูกต้องและความรับผิดชอบที่ทั้งสองฝ่ายกระทำร่วมกัน"
เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ "ถึงเวลาที่จะก้าวไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นและมองไปยังอนาคตข้างหน้า" และระบุว่าสหราชอาณาจักร "ยังคงเป็นหุ้นส่วนที่ได้รับความไว้วางใจ" อยู่ต่อไป
'โล่งอก'
นับจากนี้อียูและสหราชอาณาจักรจะยังคงความร่วมมือกันในประเด็นต่าง ๆ ต่อไป รวมถึง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, พลังงาน, ความมั่นคง และการขนส่ง
นางฟอน เดอร์ เลเยน กล่าวว่า เธอรู้สึก "ค่อนข้างพอใจ" และ "โล่งอก" ที่ข้อตกลงนี้ได้ข้อสรุป
"ถึงเวลาที่เราจะทิ้งเบร็กซิทไว้เบื้องหลังแล้ว เรามาสร้างอนาคตของเราในยุโรป" เธอกล่าวเพิ่มเติม และเน้นย้ำว่าอียูและสหราชอาณาจักรจะมีช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านในการทำอุตสาหกรรมประมง นาน 5 ปีครึ่ง
- สหราชอาณาจักร-อียู เห็นพ้องขยายเวลาเจรจาการค้าหลังเบร็กซิท
- ผู้นำอังกฤษเตือน มีโอกาสสูงที่จะไม่ได้ข้อตกลงการค้ากับอียูหลัง 31 ธ.ค.
นายจอห์นสันได้ทวีตภาพของเขาที่กำลังยิ้มและยกนิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้าง
ในแถลงการณ์ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ระบุว่า "ข้อตกลงนี้ได้ส่งมอบคำสัญญาในทุกเรื่องที่ให้ไว้กับประชาชนชาวอังกฤษในช่วงการลงประชามติปี 2016 และในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปีที่แล้วเรียบร้อยแล้ว"
"เราได้กลับมาควบคุมเงินตรา, พรมแดน, กฎหมาย, การค้า และน่านน้ำในการทำประมงของเรา"
แถลงการณ์ ระบุด้วยว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักร "ได้ส่งมอบข้อตกลงที่ยอดเยี่ยมให้กับสหราชอาณาจักรภายในระยะเวลาอันรวดเร็วเป็นประวัติการณ์ และภายใต้เงื่อนไขที่ท้าทายอย่างยิ่งยวด"
ข้อตกลงนี้ได้สร้างความผ่อนคลายให้แก่ธุรกิจหลายแขนงของอังกฤษ หลังจากได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และกังวลว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นที่พรมแดนเมื่อสหราชอาณาจักรต้องออกจากกฎเกณฑ์ทางการค้ากับสหภาพยุโรปในวันพฤหัสบดีหน้า (31 ธ.ค.)
ก่อนที่ข้อตกลงการค้าฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการจะต้องผ่านการอนุมัติหรือให้สัตยาบันจากรัฐสภาสหราชอาณาจักร และรัฐสภายุโรป (European Parliament) เสียก่อน
ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่า จะมีการเรียกประชุมรัฐสภาของสหราชอาณาจักรเพื่อลงมติในข้อตกลงฉบับนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีขึ้นในวันที่ 30 ธ.ค.
ข้อตกลงฉบับนี้มีขึ้นในเวลา 4 ปี 6 เดือน หลังจากประชาชนในสหราชอาณาจักรลงประชามติให้ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป เมื่อเดือน มิ.ย. ปี 2016
- สหราชอาณาจักรจะเสียหายอย่างไร หากออกจากอียูแบบไร้ข้อตกลง
- ส่องบทบาท นายกฯ-รัฐสภา-สถาบันกษัตริย์-ศาล ในกระบวนการเบร็กซิท
ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรได้ถอนตัวออกจากอียูอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2020 แต่ยังคงใช้ข้อตกลงการค้าเดิมใน "ช่วงเปลี่ยนผ่าน" ที่จะสิ้นสุดลงวันที่ 31 ธ.ค. 2020
ทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินการเจรจาข้อตกลงการค้าฉบับใหม่เพื่อใช้หลังเบร็กซิทมาตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ต้องยืดเยื้อเพราะมี "ประเด็นสำคัญ" ที่ตกลงกันได้ยาก คือเรื่องสิทธิการทำประมง การที่รัฐบาลสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม และวิธีการบังคับใช้ข้อตกลงการค้าของสองฝ่าย
ผลสำรวจที่จัดทำขึ้นโดย "ยูกอฟ" (YouGov) บริษัทสำรวจความคิดเห็นและวิเคราะห์ข้อมูลระหว่างประเทศ ที่มีสำนักงานใหญ่ในสหราช ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ด้วยคำถามที่ว่า "คุณคิดว่าอังกฤษทำถูกหรือผิดที่ถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป"
ผลปรากฎว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผู้ตอบแบบสอบถามเฉลี่ย 39% บอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว ส่วนอีก 49% บอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิด
ส่วนผลสำรวจอีกชิ้น บ่งชี้ว่า หากมีการลงประชามติรอบใหม่ คนส่วนใหญ่จะโหวตให้สหราชอาณาจักรอยู่นอกกลุ่มอียูต่อไป มากกว่าจะให้กลับเข้าร่วมกลุ่มอีกครั้ง