ประธานาธิบดี “ปูติน” ของรัสเซีย ระบุ จีนใกล้จะแซงหน้าสหรัฐฯ ผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจครองโลกในด้านการค้าและการเงินโลก

ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวเมื่อวานนี้ (23 ธันวาคม) ว่า จีนกำลังจะแซงหน้าสหรัฐฯ ในทุก ๆ ด้านของเศรษฐกิจ และสหรัฐฯ จะถูกเขี่ยตกจากบัลลังก์มหาอำนาจที่ครองโลกด้านการค้าและการเงิน ภายในเวลา 3 ทศวรรษข้างหน้านี้

 

ประธานาธิบดีปูตินจัดแถลงข่าวช่วงสิ้นเป็นประจำทุกปี โดยปูตินชี้ว่า ในขณะนี้ เศรษฐกิจของจีนก็มีขนาดใหญ่กว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไปแล้ว เมื่อเปรียบเทียบในด้านอำนาจในการซื้อ และเขาเชื่อว่า ภายในเวลาระหว่างปี 2035-2050 จีนจะแซงหน้าสหรัฐฯ และผงาดขึ้นเป็นประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจของโลกในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะวัดจากด้านใด

 

อย่างไรก็ตาม ผู้นำรัสเซียเตือนว่า มหาอำนาจตะวันตกกำลังพยายามบ่อนทำลายจีนและขัดขวางการเติบโตของจีน โดยชี้ว่า การคว่ำบาตรที่นำโดยสหรัฐฯ ต่อมหกรรมกีฬาโอลิมปิกส์ฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งเป็นเจ้าภาพ ที่จะจัดขึ้นต้นปีหน้า 2022 นี้ คือตัวอย่างในการขัดขวางจีน ไม่ให้สามารถ “ชูคอ” ขึ้นเหนือบรรดาประเทศคู่แข่งอื่น ๆ

 

ปูตินยังระบุด้วยว่า การคว่ำบาตรโอลิมปิกจีนของชาติตะวันตก เป็นความผิดพลาด

ผู้นำรัสเซียเปิดเผยด้วยว่า จีนถือเป็นประเทศหุ้นส่วนอันดับ 1 ของรัสเซียไปแล้ว สัมพันธภาพระหว่างจีนกับรัสเซียในขณะนี้ อยู่ในระดับที่มีความไว้เนื้อเชื่อกันอย่างยิ่ง โดยจีนและรัสเซียได้จับมือกันในด้านความมั่นคง โดยทั้ง 2 ประเทศกำลังร่วมกันเดินหน้าพัฒนาอาวุธไฮเทค

 

ปูตินระบุด้วยว่า ขณะนี้กองทัพจีนมีระบบอาวุธที่ทันสมัยที่สุดในโลก สัมพันธภาพอันดีระหว่างจีนกับรัสเซียนี้ ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีทางธุรกิจด้วยเช่นกัน

 

ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีปูตินเพิ่งประชุมสุดยอดทางไกลกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างจีนกับชาติตะวันตก และระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก

 

และผู้นำทั้งสองได้ตกลงจะพัฒนาระบบการเงินร่วมกัน เพื่อลดการพึ่งพิงระบบการเงินโลกที่ครองโดยสหรัฐฯ หลังจากที่ชาติตะวันตกขู่จะคว่ำบาตรรัสเซีย โดยจะตัดขาดรัสเซียออกจากระบบการเงินโลก ที่เรียกว่า SWIFT ที่มีฐานอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์

 

—————

ภาพ: Reuters