CEO TikTok ยืนยันสู้ต่อ แม้ไบเดนลงนามสั่งขายกิจการ
นายโจว ซี่ ชิว (Shou Zi Chew) CEO ติ๊กต่อก (TikTok) แพลตฟอร์มคลิปวิดีโอสั้นแนวตั้ง ประกาศยืนกราน ว่าจะไม่ไปไหน ยืนยันที่จะสู้ต่อเพื่อให้ดำเนินการต่อไปได้ในสหรัฐฯ แม้ว่า ส.ว.สหรัฐฯ จะมีมติอย่างท่วมท้นผ่านร่างกฎหมายบังคับให้ขายกิจการในสหรัฐฯ รวมถึงประธานาธิบดี โจ ไบเดน (Joe Biden) ได้ลงนามกฎหมายดังกล่าวไปแล้ว
จุดเริ่มต้นของกฎหมายนี้ เกิดจากความกังวลว่าแอปพลิเคชันที่มีบริษัทจากจีนอย่าง บริษัท ไบต์แดนซ์ (ByteDance) เป็นเจ้าของ จะเข้าถึงข้อมูลและสอดแนมความเป็นส่วนตัวของชาวอเมริกัน ซึ่งได้ให้เวลา TikTok ขายกิจการภายใน 270 วัน หรือก็คือ ภายในวันที่ 19 มกราคม 2025 หนึ่งวันก่อนที่โจ ไบเดน จะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่อย่างนั้น TikTok จะต้องโดนแบนในสหรัฐฯ แต่ไบเดนอาจจะขยายเส้นตายนี้ออกไปได้อีก 3 เดือน หากเห็นว่าบริษัท ไบต์แดนซ์ มีความเคลื่อนไหวหรือมีท่าทีคืบหน้าในเรื่องการขายกิจการ
โจว ซี่ ชิวได้โพสต์วิดีโอสั้นความยาว 2.12 นาทีผ่าน TikTok กล่าวว่า “วางใจได้เลย เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ข้อเท็จจริงและรัฐธรรมนูญอยู่ฝ่ายเรา และเราคาดว่าจะได้รับชนะอีกครั้ง” โดยสื่อถึงการที่ TikTok เคยชนะคำร้องให้สั่งแบนจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มาแล้วเมื่อปี 2020 ซึ่งขั้นตอน TikTok จะทำการฟ้องร้องและสู้ต่อในชั้นศาล
แต่ทั้งนี้ หลายหน่วยงานของสหรัฐฯ ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับความเคลื่อนไหวนี้ เช่นเมื่อเดือนพฤศจิกายน ผู้พิพากษาในรัฐมอนทาน่า สหรัฐฯ ก็ขัดขวางการสั่งแบน TikTok ของรัฐ โดยอ้างถึงเหตุผลในการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี (Free Speech) ในขณะที่สหภาพเสรีภาพพลเรือนอเมริกัน (American Civil Liberties Union) กล่าวว่าการแบนหรือกำหนดให้ขาย TikTok นี้จะถือเป็นการสร้างแบบอย่างที่น่าตกใจทั่วโลก ว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้
สื่อเอ็นบีซี นิวส์ (NBC News) รายงานว่า การถกเถียงเกี่ยวกับอนาคตของ TikTok ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการแสดงออกอย่างเสรีทางออนไลน์และอนาคตของโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวิธีที่ชาวอเมริกันคิดเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล และใครเป็นผู้ตัดสินใจสิ่งที่พวกเขาเห็นทางออนไลน์ด้วย
อย่างไรก็ตาม สื่อรอยเตอร์สรายงานว่า จากนี้ไปจนถึงอีก 4 เดือนแรกของปีหน้า ซึ่งระยะเวลาสิ้นสุดกระบวนการบังคับขาย จะยังไม่มีการเกิดขึ้น ผู้ใช้ชาวอเมริกันประมาณ 170 ล้านคนยังคงเล่น TikTok ได้ปกติ พร้อมกับวิเคราะห์ว่า อาจจะเป็นการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งครั้งใหม่ของประธานาธิบดีไบเดน วางแผนที่จะใช้ TikTok เป็นช่องทางในการหาเสียง เนื่องจากการรณรงค์หาเสียงของ ทรัมป์ ซึ่งเป็นคู่แข่งในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ได้ใช้ TikTok ในการสื่อสารกับประชาชน
นับว่าเป็นประเด็นใหญ่ที่น่าติดตามอย่างใกล้ชิดว่าเหตุการณ์จะดำเนินไปในทิศทางไหน TikTok จะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ในสหรัฐฯ
@tiktok Response to TikTok Ban Bill
♬ original sound - TikTok
ที่มารูปภาพ Reuters