กลุ่มการเงินงบฟื้นชัด ปี65 ธปท.หาแนวทางลดNPL
ทันหุ้น – ธปท.จับมือ แบงก์รัฐ-เอกชน หาแนวทางลดNPL ทั้งระบบ ภายใน 2 ปี ด้านนักวิเคราะห์คาดผลการดำเนินงานของทั้ง Bank, Non Bankงวดครึ่งหลังของปีอ่อนตัวลง การแข่งขันทางตลาดยังกดดัน คาดรายได้-กำไรฟื้นตัวปี 2565 ชี้เป้า ASK MTC, TIDLOR,BBL และ TISCO
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือKTB ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย ระบุ สมาคมธนาคารไทย ทำงานร่วมกับ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดแนวทางการบริหารจัดการ “หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้” (NPL) ไม่ให้เร่งตัวขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือ ควบคู่กับการเติมสภาพคล่องผ่าน Soft Loan อาทิ ปรับเพิ่มวงเงินสินเชื่อขึ้นเป็น 50 ล้านบาทต่อรายจากเดิม 20 ล้านบาทต่อราย
เบื้องต้น ธปท.จะผ่อนคลายมาตรการกำกับดูแล ควบคู่กับการช่วยพยุงต้นทุนการดำเนินงาน เพื่อให้สถาบันการเงินมีเครื่องมือในการบริหารจัดการ NPL ได้อย่างเหมาะสม สามารถกำหนดแนวทางการช่วยเหลือแบบ “เฉพาะเจาะจง” เหมาะสมกับลูกหนี้แต่ละรายมากขึ้น เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะสามารถบริหารจัดการ NPL ให้ทยอยลดลงได้ภายใน 2 ปี
ธปท.ยังได้สรุปจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2564 ปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 28,272 ราย แบ่งเป็น กลุ่มลูกหนี้ปกติ 21,564 ราย, ลูกหนี้ที่เป็น NPL แต่ยังไม่ถูกยึดหลักประกัน 4,165 ราย, ลูกหนี้ที่ถูกยึดหลักประกัน 925 ราย, และลูกหนี้ที่ถูกยึดหลักประกันและขายทอดตลาดแล้วแต่ยังต้องผ่อนส่งส่วนต่างของราคาหลักทรัพย์อยู่ 1,618 ราย
ไตรมาส 3 อ่อนตัว
ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปี 2564 (2H/64) ของทั้งกลุ่มสถาบันการเงิน และ Non Bank มีแนวโน้มอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี (1H/64) ที่ผ่านมาโดยคาดว่าผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2564 ของกลุ่ม Non Bank อาทิ MTC, SAWAD, SAK, และ TIDLOR มีแนวโน้มอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 2/2564 (QoQ) กดดันจากการแข่งขันทางการตลาด ส่งผลต่อรายได้ดอกเบี้ยรับ แม้ผู้ประกอบการบางรายจะสามารถขยายพอร์ตสินเชื่อได้อย่างต่อเนื่อง และจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในงวดไตรมาส 4/2564
เบื้องต้นคาดผลการดำเนินงานของ ASK มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องได้ หนุนจากศักยภาพการขยายตัวของสินเชื่อรถบรรทุก อีกทั้งยังมีรายได้อัตราดอกเบี้ยรับในอัตราสูง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมกลางปี 2565 ที่ 50 บาท และคาดการณ์ผลการดำเนินงานของกลุ่ม Non Bank จะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2565 โดยเฉพาะหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว อาทิ TIDLORที่มีการตั้งสำรองสัดส่วนถึง 300%มีแนวโน้มปรับลดการตั้งสำรองสู่ระดับปกติ หนุนศักยภาพการทำกำไรในปี 2565 อย่างโดดเด่น ราคาเหมาะสมกลางปี 2565 ที่ 51.75 บาท, MTC หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยรับที่จะขยายตัวอย่างโดดเด่น จากพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัวได้อย่างโดดเด่นในปี 2564 จากกลยุทธ์ขยายฐานการตลาด ราคาเหมาะสมกลางปี 2565 ที่ 72 บาท
คาดปันผล TISCO เด่นสุด
นายธนภัทร ฉัตรเสถียร ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด คาดการณ์การจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยทั้งกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ประมาณ 3%ใกล้เคียงกับอัตราผลตอบแทนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ให้ธนาคารพาณิชย์ปันผลได้ไม่เกิน 50%ของกำไรสุทธิทั้งปี และไม่เกินอัตราที่จ่ายเมื่อปี 2563 โดยคาดว่า TISCOจะเป็นธนาคารที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงสุด 7.59% ดังนั้นในระยะสั้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์จึงคาดปัจจัยหนุนในการเข้าลงทุนระยะสั้น-กลาง แต่ยังเป็นกลุ่มที่น่าเข้าลงทุนในระยะยาวในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวอาทิBBL และ TISCO