รีเซต

ฝรั่งเศส-โปแลนด์เริ่มล็อกดาวน์รอบใหม่ ขณะโลกฉีดวัคซีนแล้ว 409 ล้านโดส ยอดติดเชื้อจ่อแตะ 123 ล้านคน

ฝรั่งเศส-โปแลนด์เริ่มล็อกดาวน์รอบใหม่ ขณะโลกฉีดวัคซีนแล้ว 409 ล้านโดส ยอดติดเชื้อจ่อแตะ 123 ล้านคน
มติชน
20 มีนาคม 2564 ( 14:12 )
72
ฝรั่งเศส-โปแลนด์เริ่มล็อกดาวน์รอบใหม่ ขณะโลกฉีดวัคซีนแล้ว 409 ล้านโดส ยอดติดเชื้อจ่อแตะ 123 ล้านคน

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม เว็บไซต์ ourworldindata.info ได้เผยแพร่สถานการณ์การฉีดวัคซีนทั่วโลกว่า ปัจจุบันทั่วโลกได้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ไปแล้ว จำนวน 409.76 ล้านโดส โดย 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศของตนเองมากที่สุด ได้แก่


1.สหรัฐอเมริกา จำนวน 115.73 ล้านโดส หรือคิดเป็น 34.60 คนต่อจำนวนประชากร 100 คน
2.จีน จำนวน 64.98 ล้านโดส หรือคิดเป็น 4.51 คนต่อจำนวนประชากร 100 คน
3.อินเดีย จำนวน 39.34 ล้านโดส หรือคิดเป็น 2.85 คนต่อจำนวนประชากร 100 คน
4.สหราชอาณาจักร จำนวน 27.61 ล้านโดส หรือคิดเป็น 40.68 คนต่อจำนวนประชากร 100 คน
5.บราซิล จำนวน 13.01 ล้านโดส หรือคิดเป็น 6.12 คนต่อจำนวนประชากร 100 คน
6.ตุรกี จำนวน 12.43 ล้านโดส หรือคิดเป็น 14.74 คนต่อจำนวนประชากร 100 คน
7.เยอรมนี จำนวน 10.07 ล้านโดส หรือคิดเป็น 12.02 คนต่อจำนวนประชากร 100 คน
8.อิสราเอล จำนวน 9.63 ล้านโดส หรือคิดเป็น 111.27 คนต่อจำนวนประชากร 100 คน
9.ชิลี จำนวน 8.12 ล้านโดส หรือคิดเป็น 42.46 คนต่อจำนวนประชากร 100 คน
10.ฝรั่งเศส จำนวน 7.93 ล้านโดส หรือคิดเป็น 11.63 คนต่อจำนวนประชากร 100 คน

 

ทั้งนี้รัฐบาลสหรัฐได้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้กับประชากรในประเทศครบ 100 ล้านโดส ตามที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้ให้สัญญาไว้ในวันพิธีสาบานตนรับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมว่า จะฉีดวัคซีนให้กับชาวอเมริกันครบ 100 ล้านโดส ภายในการทำงาน 100 วันแรกของตนเอง

 

ด้านเว็บไซต์ worldmeters.info รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกว่า ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 122.89 ล้านคน หลังจากในวันที่ 19 มีนาคม โลกมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในวันเดียวจำนวน 514,038 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 2.7 ล้านราย หลังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันเดียว 9,914 ราย

 

ขณะที่สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ล่าสุดมีหลายประเทศโดยเฉพาะในยุโรป กลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง หลังจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างที่กรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส ได้เริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 19 มีนาคมเป็นต้นไป เป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยร้านค้าที่ไม่จำเป็น ต้องปิดทำการ ส่วนโรงเรียนและร้านตัดผมยังสามารถเปิดทำการได้ตามปกติ และอนุญาตให้ออกกำลังกายนอกบ้านได้ในระยะไม่เกิน 10 กิโลเมตรจากบ้าน นอกจากนี้ทั่วประเทศฝรั่งเศสจะใช้มาตรการเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 19.00 น.- 06.00 น.ของทุกวัน

 

ส่วนประเทศโปแลนด์จะกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งในวันที่ 20 มีนาคม เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ ถึง 60% จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดในขณะนี้ โดยสายพันธุ์อังกฤษสามารถแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้นถึง 56%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง