SFLEX แพ็กเก็จจิ้งผงาด ดีมานด์พุ่ง-เล็งQ4นิวไฮ
ทันหุ้น –สู้โควิด –SFLEX กระแสหุ้นแพ็กเก็จจิ้งมาแรง ชี้เป็นกลุ่มแรกได้รับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น พร้อมรับกระแสโลกใหม่ดันความต้องการแพ็กเก็จจิ้งขยายตัว ย้ำฐานลูกค้ายังแข็งแกร่ง ขณะที่ผลงานไตรมาส 4/2563 ทุบสถิติใหม่ต่อเนื่องมองการเข้าเทรดของ SCGP ช่วยกระตุ้นตลาดบรรจุภัณฑ์คึกคัก
ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SFLEX กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 มองยอดขายจะสามารถสร้างสถิติใหม่สูงสุดได้ต่อเนื่อง เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจเป็นไปตามความต้องการใช้งานบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ในช่วงปลายปี นอกจากนี้ จากการเดินหน้าทำตลาดลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น ส่งผลให้คำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ในปัจจุบันขยับสูงขึ้นตาม ส่งผลให้บริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานรวมปี 2563 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 15% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,273.35 ล้านบาท
ขณะเดียวกันบริษัทวางแผนงานปี 2564 เบื้องต้นตั้งป้ายอดขายเติบโตประมาณ 7-10% จากปีก่อน จากการเติบโตด้วยธุรกิจของบริษัทเอง (Organic) ยังไม่รวมกับการจับมือกับพันธมิตรหลายบริษัทที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ของ SFLEX แบ่งเป็น บรรจุภัณฑ์ในกลุ่มที่ไม่ใช่อาหาร (Non-Food) อยู่ที่ราว 84%, บรรจุภัณฑ์กลุ่มอาหารประมาณ 16% รวมทั้งมีแนวทางขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะตลาดในกลุ่มอาหาร เพราะมองยังมีโอกาสในการสร้างรายได้ในอนาคตเพิ่มเติม
*ตลาดบรรจุภัรฑ์คึกคัก
สำหรับการมาของ SCGP นั้น มองว่าเป็นอีกหนึ่งกระแสที่นักลงทุนให้ความสนใจและให้การจับตาอยู่ เชื่อว่าจะมาเป็นแรงกระตุ้นช่วยสร้างความคึกคักให้กับตลาดโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ได้ แม้ว่าทาง SCGP จะมีสัดส่วนการผลิต Flexible Packing ซึ่งเป็นประเภทสินค้าเดียวกันแต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยราว 4-5% ของพอร์ตรวมเท่านั้น
โดยผลิตภัณฑ์หลักๆ ของ SCGP เป็นกลุ่มบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ กระดาษบรรจุภัณฑ์ และกระดาษคราฟท์ ฯลฯ อีกทั้งด้วยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกันทำให้การขายไม่ทับไลน์กัน เพราะเป็นคนละ Segment ทำให้มองว่าไม่ใช่คู่แข่งกันในทางตรงและจะไม่มีผลกระทบในเรื่องของการแข่งขันราคา เนื่องจากกลุ่มลูกค้า Flexible Packaging ของบริษัทส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพรีเมี่ยม A ถึง B+ ขณะที่กลุ่มลูกค้าในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวของ SCGP จัดอยู่ในกลุ่ม B ถึง C เป็นต้น
*เกาะกระแส SCGP
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า มองกลุ่มบรรจุภัณฑ์ (Packaging) ค่อนข้างมีความสนใจในการลงทุน เนื่องจากกลุ่มที่มี Valuation ไม่ร้อนแรง อีกทั้งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสินค้ากลุ่มแรกๆ ที่จะได้รับอานิสงส์คือกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอุปโภค-บริโภค ซึ่งบรรจุภัณฑ์เป็นส่วนประกอบสำคัญ ดังนั้นจึงมองว่าเป็นกลุ่มที่ราคายังคงมี Upside อยู่มากในอนาคต โดยแนะนำ "ซื้อ" SFLEX และ UTP
สำหรับการเข้าเข้ามาเทรดของ SCGP จะมีผลต่อการยกระดับ Sentiment ของกลุ่มได้หรือไม่นั้น ความเห็นส่วนตัวมองว่าเฉยๆ ซึ่งก็คงต้องรอดูมูลค่า (valuation) และการนำมาเปรียบเทียบ (comparison) อีกครั้งหนึ่ง แต่คาดการณ์ว่าอาจต้องเทรดในระดับพรีเมี่ยมกว่าตัวอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันเล็กน้อย เพราะเป็นบริษัทที่กระบวนการผลิตและจำหน่ายที่ครบวงจรและครบคลุมได้ทุกความต้องการ (Wilde Length)