'เว็บไซต์ตรวจข่าวปลอม' ช่วยคุณได้! เปิดวิธีใช้ เช็กก่อนเชื่อ
ข่าวปลอม (fake news) ข่าวบิดเบือน ปัญหาที่เกิดขึ้นในยุคที่อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้ง่าย รวดเร็วมากขึ้น ผลพ่วงที่ตามมาหากผู้ใช้งานขาดความรู้ ความเข้าใจ รู้ไม่เท่าทันกลโกงของเหล่ามิจฉาชีพ ไม่เพียงเสียเวลา ไม่เพียงแต่เกิดความหลงผิด เชื่อข่าวลวง บอกต่อ แชร์ต่อ อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายโทษฐานบิดเบือน หรือเชื่อข่าวปลอมนำไปทำตามอาจสร้างความเสียหายให้ทั้งตัวเอง คนรอบข้าง คนในสังคมพ่วงด้วย ไปจนถึงเสียทรัพย์สินที่หามาทั้งชีวิตได้ด้วย
ดังนั้น เราต้องรู้เท่าทัน "ข่าวปลอม" หรือข่าวบิดเบือนที่มีอยู่มากมาย จะแยกแยะอันไหนข่าวจริง หรือข่าวปลอมอย่างไร วันนี้ TrueID มีนวัตกรรมเทคโนโลยีที่จะมาช่วยให้คุณตรวจสอบได้ว่า ข่าวนั้น ๆ ที่เราอ่าน หรือมีคนส่งต่อมาให้อ่าน จริงหรือไม่จริง? ด้วย "เว็บไซต์ Thai D.I. Machine" ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนอย่างเรา ๆ ตรวจสอบข่าวปลอมด้วยตนเองง่าย ๆ
โดย "เว็บไซต์ Thai D.I. Machine" เป็นผลงานของหน่วยปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านความรู้ทางดิจิทัลและการรู้เท่าทันสื่อ (DIRU) คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ สร้างขึ้นด้วยฝีมือคนไทยก็ต้องช่วยกันสนับสนุนกันนะ ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวใช้วิธีการทำงานโดยใช้หลักการตรวจสอบด้วยวิธีการสืบค้นและเปรียบเทียบข้อมูลสารสนเทศจากข้อมูลขนาดใหญ่บนอินเทอร์เน็ต จะนำข้อมูลข่าวสืบค้นไปวิเคราะห์ด้วยวิธีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) และวิธีการเรียนรู้ของเครื่องแบบระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System based Machine Learning) เป็นการใช้ฐานกฎหรือความรู้ (Rule Base or Knowledge) ในการจำแนกข่าว ตัวระบบสามารถเรียนรู้ให้ฉลาดขึ้นจากข้อมูลข่าวที่สืบค้นเองอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้เห็นประโยชน์ของ "เว็บไซต์ Thai D.I. Machine" กันแล้วใช่ไหม มาม่ะมาดูมีขั้นตอนในการใช้งานกันเลยดีกว่า จะได้มั่นใจก่อนแชร์ข่าวนั้น ๆ ไปยังมือคนรอบข้าง จะได้เป็นข่าวที่มีประโยชน์อย่างแท้จริง ไม่เป็นข่าวปลอมที่สร้างให้ผู้คนหลงเชื่อจนสร้างความเดือดร้อนได้
วิธีตรวจ "ข่าวปลอม"ด้วยตนเองง่าย ๆ
1. คลิกเข้าเว็บไซต์ www.thaidimachine.org
2. พิมพ์หัวข่าวหรือข้อความที่สงสัย
3. กดคำสั่งตรวจสอบ เพียงเท่านี้ก็จะทราบผลเบื้องต้นได้ทันทีว่าข่าวหรือข้อความดังกล่าวมีแนวโน้มเป็นข่าวจริงหรือข่าวปลอม
โดยผลการตรวจสอบข่าวแบ่งออกเป็น 5 ระดับคือ
- ข่าวจริง
- ข่าวปลอม
- มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นข่าวจริง
- มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นข่าวปลอม
- ข่าวน่าสงสัย
เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนแชร์ข่าว ช่วยชะลอการแพร่กระจาย ลดปัญหาข่าวปลอม กระตุ้นให้ประชาขนสามารถจัดการข่าวปลอมได้ด้วยตนเอง
ใครลองใช้กันแล้วมาบอกกันหน่อย!
ข้อมูล : กรุงเทพธุรกิจ