OpenAI เปิดตัว ChatGPT Agent: AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ ทำงานแทนคุณได้!

OpenAI กำลังเปิดตัว AI Agent อเนกประสงค์ตัวใหม่ใน ChatGPT ที่มีความสามารถในการทำงานหลากหลายรูปแบบบนคอมพิวเตอร์แทนผู้ใช้ บริษัทระบุว่า Agent นี้สามารถจัดการงานต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ เช่น การตรวจสอบปฏิทิน, สร้างงานนำเสนอที่แก้ไขได้ และรันโค้ดได้ด้วยตัวเอง

เครื่องมือใหม่นี้มีชื่อว่า ChatGPT Agent ซึ่งเป็นการรวมความสามารถจากเครื่องมือ Agent รุ่นก่อนหน้าของ OpenAI เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งความสามารถในการคลิกเว็บไซต์แบบ Operator และความสามารถในการสรุปข้อมูลวิจัยจากหลายสิบเว็บไซต์ของ Deep Research ผู้ใช้สามารถสั่งงาน Agent นี้ได้ง่ายๆ ด้วยภาษาพูดปกติ (natural language) ผ่าน ChatGPT

ChatGPT Agent เริ่มเปิดให้ใช้งานแล้วสำหรับสมาชิกแบบ Pro, Plus และ Team โดยผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานได้ง่ายๆ ด้วยการเลือก "agent mode" จากเมนู dropdown ใน ChatGPT

การเปิดตัว ChatGPT Agent ครั้งนี้ถือเป็นความพยายามครั้งสำคัญของ OpenAI ที่จะเปลี่ยน ChatGPT ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ AI Agent ที่สามารถลงมือทำสิ่งต่างๆ และทำงานแทนผู้ใช้ได้จริงๆ ไม่ใช่แค่ตอบคำถามอย่างเดียว ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง OpenAI, Google และ Perplexity ได้เปิดตัว AI Agent หลายสิบตัวที่สัญญาว่าจะทำแบบนี้ แต่ในทางปฏิบัติ AI Agent รุ่นแรกๆ เหล่านี้มักจะเจอปัญหาในการทำงานที่ซับซ้อน

อย่างไรก็ตาม OpenAI ยืนยันว่า ChatGPT Agent มีความสามารถที่เหนือกว่าผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนหน้าอย่างมาก โดยสามารถเข้าถึง ChatGPT Connectors ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับแอปต่างๆ อย่าง Gmail และ GitHub เพื่อให้ Agent ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งของผู้ใช้ได้ นอกจากนี้ ChatGPT Agent ยังสามารถเข้าถึง Terminal และใช้ APIs เพื่อเข้าถึงแอปพลิเคชันบางตัวได้อีกด้วย

OpenAI ยกตัวอย่างการใช้งาน ChatGPT Agent ว่าสามารถช่วย "วางแผนและซื้อวัตถุดิบทำอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นสำหรับสี่คน" หรือ "วิเคราะห์คู่แข่งสามรายและสร้างสไลด์นำเสนอ" ซึ่งงานเหล่านี้ต้องอาศัยความสามารถในการวิเคราะห์เว็บไซต์, วางแผนการทำงาน และใช้เครื่องมือต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ซับซ้อนกว่าที่ OpenAI เคยทำมาก่อน

โมเดลที่อยู่เบื้องหลัง ChatGPT Agent มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมจากคะแนนทดสอบหลายด้าน โดยเฉพาะคะแนนใน Humanity's Last Exam ซึ่งเป็นการทดสอบที่ยากมาก มีคำถามหลายพันข้อจากกว่าร้อยวิชา ChatGPT Agent ได้คะแนนถึง 41.6% ซึ่งมากกว่าคะแนนของ o3 และ o4-mini ที่ได้คะแนนเพียงครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ ในการทดสอบคณิตศาสตร์ FrontierMath ซึ่งเป็นหนึ่งในการทดสอบที่ยากที่สุด ChatGPT Agent ได้คะแนน 27.4% ในขณะที่ o4-mini ได้เพียง 6.3%

OpenAI ย้ำว่าได้พัฒนา ChatGPT Agent โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เนื่องจากความสามารถใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอาจเป็นอันตรายในมือของคนร้ายได้ ในรายงานด้านความปลอดภัยของ ChatGPT Agent ทางบริษัทจึงจัดระดับโมเดลนี้ไว้เป็น "ความสามารถสูง" ในด้านอาวุธชีวภาพและเคมี ซึ่งหมายถึงความสามารถในการ "ขยายขอบเขตความเสียหายที่รุนแรง" ได้ แม้จะไม่มีหลักฐานโดยตรง แต่ OpenAI ก็เลือกที่จะใช้มาตรการป้องกันล่วงหน้าและเปิดใช้งานระบบป้องกันใหม่เพื่อลดความเสี่ยง

ระบบป้องกันใหม่เหล่านี้รวมถึงการทำงานแบบเรียลไทม์เพื่อตรวจสอบคำสั่งของผู้ใช้ โดยทุกคำสั่งที่ป้อนเข้าไปใน ChatGPT Agent จะถูกตรวจสอบว่าเป็นคำขอที่เกี่ยวข้องกับชีววิทยาหรือไม่ หากใช่ คำตอบของ Agent จะถูกตรวจสอบซ้ำด้วยตัวกรองที่สองเพื่อดูว่าเนื้อหานั้นสามารถนำไปใช้สร้างภัยคุกคามทางชีวภาพได้หรือไม่

นอกจากนี้ OpenAI ยังปิดใช้งานฟีเจอร์ "ความจำ" (Memory) ของ ChatGPT Agent เพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด ซึ่งฟีเจอร์นี้ปกติจะช่วยให้แชทบอทอ้างอิงข้อมูลจากการสนทนาก่อนหน้าของผู้ใช้ได้ แต่ OpenAI เกรงว่าผู้ไม่ประสงค์ดีอาจใช้ช่องทางนี้เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญผ่านการโจมตีแบบ Prompt Injection อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจพิจารณาเพิ่มฟีเจอร์นี้เข้ามาอีกครั้งในอนาคต

โดยสรุปแล้ว OpenAI เปิดตัว ChatGPT Agent ซึ่งเป็น AI Agent อเนกประสงค์ที่สามารถทำงานบนคอมพิวเตอร์แทนผู้ใช้ได้ โดยสามารถจัดการงานที่ซับซ้อนได้มากขึ้น เช่น การจัดการปฏิทิน, สร้างสไลด์ และรันโค้ด ซึ่งถือเป็นการอัปเกรดความสามารถครั้งสำคัญ มีประสิทธิภาพสูงในการทดสอบหลายด้าน และมีระบบความปลอดภัยที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด แต่ก็ยังคงต้องรอดูความสามารถจริงในโลกแห่งความเป็นจริงต่อไป

Photo Credit : openai.com