รีเซต

อย่าคิดว่าไม่อันตราย! เด็ก 10 ขวบช็อก น้ำยาลบคำผิด ระเบิดใส่หน้า หมอรักษากว่า 2 ชั่วโมง

อย่าคิดว่าไม่อันตราย! เด็ก 10 ขวบช็อก น้ำยาลบคำผิด ระเบิดใส่หน้า หมอรักษากว่า 2 ชั่วโมง
ข่าวสด
26 พฤษภาคม 2564 ( 08:00 )
214
อย่าคิดว่าไม่อันตราย! เด็ก 10 ขวบช็อก น้ำยาลบคำผิด ระเบิดใส่หน้า หมอรักษากว่า 2 ชั่วโมง

 

ข่าววันนี้ 25 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุน้ำยาลบคำผิดระเบิดใส่หน้าเด็กชายวัย 10 ขวบ ที่บ้านหลังหนึ่งในซอยบงกช 43 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดย นางสุพรรษา ผู้เป็นแม่ ได้นำตัวลูกชายที่ได้รับบาดเจ็บจากแท่งน้ำยาลบคำผิดชนิดน้ำระเบิดใส่ใบหน้าและลำตัว ส่ง ร.พ.ภัทรธนบุรี

 

 

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว ที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้องนอนชั้นบนของบ้าน บริเวณหน้าโต๊ะตั้งคอมพิวเตอร์ พบแท่งน้ำยาลบคำผิดมีร่องรอยแตกจากการระเบิด และพบน้ำยากระเด็นเปื้อนทั่วบริเวณ ส่วนเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ มีอาการแสบที่ดวงตาและใบหน้า

 

 

ด.ช.ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตอนนั้นตนกำลังจะเตรียมเรียนออนไลน์ แต่ครูยังไม่เปิดห้องเรียน จึงได้นำสเก็ตบอร์ดของตัวเองขึ้นมาวางที่แท่นวางใต้โต๊ะคอมพิวเตอร์ เพราะต้องการจะเขียนชื่อคำว่า AUTO ลงในพื้นสเก็ตบอร์ด โดยจะใช้แท่งน้ำยาลบคำผิดเขียนเป็นชื่อ แต่จังหวะนั้นกดน้ำยาไม่ออก จึงได้พยายามใช้ที่ปลายหัวแท่งน้ำยาเคาะๆ ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์และบีบ เพื่อจะให้น้ำยาไหลออกมา แต่น้ำยากลับไม่ออก จังหวะนั้นก็เกิดระเบิดจนน้ำยากระเด็นกระจายเต็มหน้าเต็มโต๊ะ และเกิดอาการแสบตาจึงได้ร้องเรียกยายที่อยู่ชั้นล่างขึ้นมาช่วย โดยยายพาไปล้างในห้องน้ำแต่ก็ไม่ออก เกิดอาการเคืองที่ตาและตาแดง แม่จึงได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาล

 

 

ขณะที่ นางสุพรรษา เปิดเผยว่า แพทย์ได้รักษาโดยพบว่าน้ำยาเกิดการแข็งตัวและไม่สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำ จึงได้ใช้น้ำเกลือเช็ด และใช้น้ำมันชนิดทาผิวเช็ดบริเวณผิวหนังที่เปื้อนน้ำยาออก เนื่องจากผิวที่ใบหน้าเป็นผิวอ่อนไม่สามารถใช้แอลกอฮอล์เช็ดได้ เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคือง ส่วนที่ดวงตาพบว่าไม่เป็นอันตรายใดๆ แต่มีอาการระคายเคืองจากสารเคมีในตัวน้ำยาลบคำผิดเล็กน้อย

 

 

โชคดีที่ไม่ได้ทำให้อวัยวะสำคัญที่ดวงตาได้รับอันตรายแต่อย่างใด ใช้เวลารักษานานกว่า 2 ชั่วโมง ส่วนแท่งน้ำยาลบคำผิดลูกน่าจะหยิบมาจากในตะกร้าภายในห้อง ซึ่งไม่ได้ใช้งานมานานแล้ว จึงอาจจะเกิดจากอากาศที่ร้อนและอบอยู่ในห้องนอนชั้นบน อย่างไรก็ตามถือว่ายังโชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง จึงอยากฝากเตือนเด็กๆ ให้ระมัดระวัง เพราะสิ่งของบางอย่างเราไม่รู้ว่าจะทำให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงได้

 

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง