รีเซต

ขสมก.แจ้งกระเป๋ารถเมล์สาย 13 ติดเชื้ออีก 1 ราย ขณะนี้รักษาตัวอยู่รพ. พร้อมเปิดไทม์ไลน์

ขสมก.แจ้งกระเป๋ารถเมล์สาย 13 ติดเชื้ออีก 1 ราย ขณะนี้รักษาตัวอยู่รพ. พร้อมเปิดไทม์ไลน์
มติชน
4 มิถุนายน 2564 ( 16:25 )
59
ขสมก.แจ้งกระเป๋ารถเมล์สาย 13 ติดเชื้ออีก 1 ราย ขณะนี้รักษาตัวอยู่รพ. พร้อมเปิดไทม์ไลน์

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ออก ประกาศคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ โดยระบุว่า 

 

 

 

ตลอดระยะเวลาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)  ที่ผ่านมาองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กระทรวงคมนาคม  ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวซึ่งเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติการป้องกันของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด

 

 

 

แต่ทั้งนี้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ขออภัยที่ต้องแจ้งให้ทราบว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2564 พนักงานเก็บค่าโดยสารรถธรรมดา สาย 13 เพศชาย อายุ 56 ปี ได้ถูกนำตัวไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งแพทย์ได้ทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ให้กับพนักงาน ต่อมาวันที่

 


3 มิถุนายน 2564 แพทย์ได้แจ้งให้ทราบว่าพนักงานคนดังกล่าวเป็นผู้ติดเชื้อฯ ขณะนี้พนักงานอยู่ระหว่าง
การรักษาที่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว จากผู้อำนวยการเขตการเดินรถที่ 4 จึงได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ดังต่อไปนี้

 

 

1. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้มีการแจ้งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อแจ้งรายละเอียดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) (ตามแนวทางปฏิบัติกรณีพบผู้ติดเชื้อฯ) โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข

 

 

2.พนักงานผู้ติดเชื้อได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) อย่างเคร่งครัด โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารและล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รวมทั้ง มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ก่อนปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง ซึ่งอุณหภูมิร่างกายของพนักงาน ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2564 อยู่ที่ 36.5 องศาเซลเซียสโดยไทม์ไลน์ของพนักงานสรุปได้ ดังนี้

 

 

วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 วันหยุดประจำสัปดาห์ พนักงานพักอาศัยอยู่ที่บ้าน ณ ชุมชนร่มเกล้า เขตคลองเตย ,วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 13 หมายเลข 4 – 80430 ตั้งแต่เวลา 06.20 – 12.50 น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที, วันที่ 26 พฤษภาคม 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 13 หมายเลข 4 – 80410 ตั้งแต่เวลา 07.00 – 12.20 น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที, วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 13 หมายเลข 4 – 80246 ตั้งแต่เวลา 06.00 – 11.45 น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที, วันที่ 28 พฤษภาคม 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 13 หมายเลข 4 – 80006 ตั้งแต่เวลา 06.00 – 12.20 น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที, วันที่ 29 พฤษภาคม 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 13 หมายเลข 4 – 80370 ตั้งแต่เวลา 04.15 – 09.00 น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที

 

 

วันที่ 30 พฤษภาคม 2564 เวลา 10.50 น. พนักงานได้เดินทางไปที่สถานีกลางบางซื่อเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) และเดินทางกลับบ้านในเวลา 12.00 น., วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 พนักงานหยุดพักผ่อนหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนฯ, วันที่ 1 มิถุนายน 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 13 หมายเลข 4 – 80246 ตั้งแต่เวลา 05.45 – 11.30 น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที, วันที่ 2 มิถุนายน 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 13 หมายเลข 4 – 80006 ตั้งแต่เวลา 07.00 – 12.00 น. โดยพนักงานได้เป็นลมขณะปฏิบัติหน้าที่ ต่อมาเวลา 12.30 น. พนักงานได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อเข้ารับการรักษา โดยแพทย์ได้ทำการตรวจหาเชื้อไวรัส
โคโรนา 2019 (COVID – 19) ให้กับพนักงาน และวันที่ 3 มิถุนายน 2564 เวลา 14.00 น. แพทย์ได้แจ้งให้ทราบว่า พนักงานเป็นผู้ติดเชื้อฯ ขณะนี้พนักงานอยู่ระหว่างการรักษาที่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

 

 

3.เมื่อพนักงานขับรถโดยสารนำรถกลับเข้าอู่ในแต่ละรอบ จะมีการฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสารทันทีด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70 % จึงมั่นใจได้ว่ารถโดยสารขององค์การมีความสะอาด ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) นอกจากนี้ องค์การได้พักการใช้งานรถโดยสารธรรมดา สาย 13 จำนวน 5 คัน ที่พนักงานผู้ติดเชื้อได้ปฏิบัติหน้าที่ ได้แก่ รถโดยสาร หมายเลข 4 – 80430, 4 – 80410, 4 – 80246, 4 – 80006 และ 4 – 80370 เป็นระยะเวลา 3 วัน เพื่อทำการฉีดพ่นทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคภายในรถ รวมถึง อู่จอดรถและท่าปล่อยรถโดยสาร

 

 

4.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้มีการตรวจสอบ พบว่าพนักงานขับรถโดยสาร จำนวน 5 คน ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารคันเดียวกับพนักงานผู้ติดเชื้อฯ จึงให้พนักงานขับรถโดยสารดังกล่าวหยุดงานไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) หากได้ผลเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป

 

 

ทั้งนี้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) อย่างเคร่งครัด ได้แก่ การสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร การล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์  การฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสารด้วยแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลังนำรถออกวิ่งให้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการเดินทาง

บทความน่าสนใจอื่นๆ

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง