บ้าน 3D-Printed คืออนาคตที่อยู่อาศัยแบบยั่งยืน
ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยสาธารณะเริ่มเลวร้ายลงทุกปี ไม่ว่าจะด้านพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด รวมไปถึงราคาที่ซึ่งพุ่งสูงขึ้นอยู่ตลอด โดยเราสามารถสังเกตุเห็นได้จากในกรุงเทพฯ เอง ซึ่งในปัจจุบันได้เริ่มขยายโครงการการสร้างบ้านหรือคอนโดออกไปยังพื้นที่ที่อยู่ชานเมืองมากขึ้น เพื่อที่จะสามารถรองรับจำนวนคนที่เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ได้ทั้งหมด แต่ปัญหาที่สำคัญที่สุดของเรื่องที่อยู่อาศัยกลับเป็นเรื่องของ "ราคา" ที่บางโครงการก็สูงเกินกว่าเราจะสามารถเอื้อมถึงได้
บ้าน 3D-Printed สามารถแก้ปัญหาเรื่องราคาและสิ่งแวดล้อมได้
Mighty Buildings บริษัท 3D-printing ในโอ๊คแลนด์ได้นำเสนอบ้านแบบ 3D-Printed ออกมานำขายในราคาที่ไม่แพง ขอแค่เรามีที่วางก็สามารถเข้าอยู่อาศัยได้เลย บ้าน 3D-printing เป็นการนำเสนอทางเลือกที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ สำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านขนาดเล็ก
บ้าน 3D-printing ของ Mighty Buildings มีขนาด 79,000 ตารางฟุตและได้รับการรับรองภายใต้โครงการ California Factory Built Housing รวมถึงการรับรองจาก UL ภายใต้มาตรฐานใหม่ในด้าน 3D-printing โดยทาง Mighty Buildings ได้ทำการสร้างวัสดุสำหรับกระบวนการ 3D-printing ดังกล่าวขึ้นมาโดยเฉพาะ ทำให้กระบวนการสร้างที่อยู่อาศัยนอกจากจะรวดเร็วมากขึ้นแล้ว ยังประหยัดพลังงานและมีโครงสร้างที่ดีมาก โดยวัสดุใหม่ดังกล่าวจะมีความแข็งเทียบเท่ากับคอนกรีต แต่สามารถทนความร้อนและรับน้ำหนักได้มากยิ่งกว่า
วัสดุก่อสร้างของ Mighty Buildings สามารถผลิตออกมาได้โดยใช้เวลาน้อยลงมากถึง 95% เร็วกว่าการก่อสร้างปกติถึง 2 เท่า และมีของเสียน้อยกว่า 10 เท่า บ้านคอนเทนเนอร์มีข้อจำกัดในด้านรูปทรงและการออกแบบ แต่บ้าน 3D-printing ไม่ติดปัญหาดังกล่าว และทำความซับซ้อนให้ออกมาได้โดยง่าย ซึ่งนั่นทำให้บ้าน 3D-printing มีราคาที่ถูกกว่าบ้านทั่ว ๆ ไปและดูแลสิ่งแวดล้อมได้ดีกว่า
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline
แหล่งที่มา forbes.com