รีเซต

"อโกด้า" ชี้เที่ยวไทยไม่ได้สวยหรู เหตุมีตัวเลือก-เชื่อจีนจะกลับมา

"อโกด้า" ชี้เที่ยวไทยไม่ได้สวยหรู เหตุมีตัวเลือก-เชื่อจีนจะกลับมา
TNN ช่อง16
4 ธันวาคม 2568 ( 13:42 )

สถานการณ์การท่องเที่ยวขาเข้าประเทศกันก่อน ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย ระยะ 11 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง พฤศจิกายน 2568 มีจำนวนรวม 29 ล้าน 6 แสนคน และสร้างรายได้ 1 ล้าน 3 แสน 7 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ อโกด้า รายงานว่า ช่วงปีที่ผ่านมา ประเทศที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด คือ มาเลเซีย, จีน เกาหลีใต้ อินเดีย และญี่ปุ่น และ 3 อันดับมาแรง ที่เดินทางเข้าไทย ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ ร้อยละ 78, อิสราเอล ร้อยละ 76 และอินโดนีเซีย ร้อยละ 43 ซึ่งเป็นข้อมูลจากอันดับการจองและเปอร์เซนต์การค้นหาที่พักบนแพลตฟอร์มอโกด้า 

ทั้งระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย อาจลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่โควิด 19 

คุณ ออมรี มอร์เกนสเติร์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อโกด้า กล่าวว่า ภาพการท่องเที่ยวของไทยในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้สวยหรูอย่างที่เคยเป็น เนื่องจากมีหลายเหตุการณ์ที่เป็นปัจจัยลบต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี ขณะเดียวกันการแข่งขันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เข้มข้น ทำให้นักท่องเที่ยวมีตัวเลือกมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้คู่แข่งอย่างเวียดนามจะไล่ตามมาติด ๆ แต่ไทยยังอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ จากการมีจุดขายที่โดดเด่น และเป็นจุดหมายปลายทางที่อยู่ในใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รวมถึงนักท่องเที่ยวจีน ที่เชื่อว่าจะกลับมาเที่ยวในประเทศไทยอีกครั้ง

โดย มี 3 ปัจจัยหลักที่ทำให้เชื่อว่า ไทยยังมีโอกาสที่ดีในปี 2026 ก็คือ การที่ภาครัฐของไทยมีครีเอทีฟ สามารถปรับตัวได้ทันกับสถานการณ์ลบที่เกิดขึ้น เช่น การปรับปรุงมาตรการด้านความปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ปีหน้ายังมีการจัดงานอีเวนต์ใหญ่ ๆ หลายงาน รวมถึง Tomorrowland ที่เป็นเทศกาลดนตรีระดับโลก จะมาจัดในไทย และสุดท้าย คือการที่ไทยมีความยืดหยุน ไม่พึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยมีความแข็งแรงพอสมควร 

นอกจากนี้ อโกด้า ยังเผยรายงาน Agoda 2026 Travel Outlook ในส่วนของประเทศไทย พบว่า วัตถุประสงค์หลักในการเดินทางของคนไทย คือ การพักผ่อน ซึ่งเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน โดยมีสัดส่วนสูงที่สุดคิดเป็นร้อยละ 73 รองลงมาคือ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพร้อยละ 30 และท่องเที่ยวเพื่อประสบการณ์ด้านอาหาร ร้อยละ 20

คุณ อรรคพร รอดคง ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย อโกด้า กล่าวอีกว่า การท่องเที่ยวในประเทศกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยมีมากถึง 2 ใน 3 หรือร้อยละ 66 ที่วางแผนเดินทางภายในประเทศมากขึ้น เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 30 โดยเฉพาะ เมืองรอง กำลังดึงดูดความสนใจของนักเดินทางชาวไทยมากขึ้น เนื่องจากราคาและมีโปรโมชันจูงใจ, สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย, มีบริการสนับสนุนการเดินทาง และสุดท้ายมองว่าได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และมีกิจกรรมกลางแจ้ง

โดยคนไทยวางแผนเดินทางท่องเที่ยวระยะสั้น 1-3 วันต่อทริป ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากวันหยุดราชการประจำปีหลายวัน และร้อยละ 50 ระบุว่าจะเดินทางกับครอบครัว และร้อยละ 30 เลือกเดินทางไปกับแฟน

สำหรับการเดินทางต่างประเทศของคนไทย ปัจจัยหลักที่ทำให้ตัดสินใจไปเที่ยวบ่อยขึ้นคือ การไม่มีข้อจำกัดด้านวีซ่า คิดเป็นร้อยละ 69 ส่วนนักท่องเที่ยวร้อยละ 57 ต้องการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น

ซึ่ง 5 อันดับจุดหมายปลายทางต่างประเทศยอดนิยมสำหรับชาวไทย คือ ญี่ปุ่น เวียดนาม จีน เกาหลีใต้ และมาเลเซีย

จากผลสำรวจพบว่า นักเดินทางชาวไทยมักจะชื่นชอบข้อเสนอที่คุ้มค่าสำหรับการจองที่พัก โดยร้อยละ 44 วางแผนใช้จ่ายไม่เกิน 1,600 บาทต่อคืน ส่วนร้อยละ 40 วางแผนใช้งบระหว่าง 1,601-3,200 บาทต่อคืน และมีเพียงร้อยละ 3 ที่ตั้งงบไว้มากกว่า 3,200 บาทต่อคืน

และยังพบด้วยว่า นักเดินทางชาวไทยกำลังเรียนรู้ที่จะใช้ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยร้อยละ 69 ระบุว่ามีแนวโน้มจะใช้ เอไอ ในการวางแผนทริปครั้งต่อไป และมีร้อยละ 57 เชื่อถือข้อมูลที่สร้างโดย เอไอ ขณะที่มีเพียงร้อยละ 12 ที่รู้สึกว่าไม่ไว้วางใจ เอไอ และอีกร้อยละ 31 มีท่าทีเป็นกลางสำหรับการใช้งาน เอไอ