Ethereum ชูโมเดล Privacy DeFi ตอบโจทย์สถาบัน-ปฏิบัติตามกฎหมายได้จริง

#Ethereum #ทันหุ้น - ข้อมูลจาก Cryptonewsland ได้ระบุว่า Ethereum Foundation ได้ประกาศโรดแมปใหม่เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวอย่างสมบูรณ์บนบล็อกเชนของตน โดยทีมงานเดิมที่ชื่อ Privacy & Scaling Explorations ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Privacy Stewards of Ethereum (PSE) และปรับเปลี่ยนแนวทางจากการวิจัยเชิงสำรวจเป็นการมุ่งแก้ปัญหาทางเทคนิคในทันที

โรดแมปที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 12 กันยายน โดย Sam Richards สมาชิกในทีม ได้ให้รายละเอียดความคืบหน้าและเป้าหมายในอนาคต โดยมีใจความสำคัญอยู่ 3 ด้าน ได้แก่ private writes, private reads, และ private proving ซึ่งเป็นแนวทางที่บล็อกเชนจะสามารถรองรับการกระทำที่เป็นความลับในขณะที่ยังคงสามารถเข้าถึงและปฏิบัติตามข้อกำหนดได้

Private Writes และธุรกรรมที่เป็นความลับ

เป้าหมายของ private writes คือการทำให้การทำธุรกรรมบนเชนมีประสิทธิภาพเท่ากับการทำธุรกรรมสาธารณะ โดย PSE ยังคงพัฒนา PlasmaFold ซึ่งเป็นระบบ Layer 2 สำหรับการโอนเงินแบบส่วนตัว และมีแผนจะนำเสนอแนวคิดนี้ที่งาน Devconnect ในอาร์เจนตินาวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ โรดแมปยังกล่าวถึงความพยายามในเรื่องการโหวตแบบส่วนตัว โดยจะมีรายงาน “state of private voting 2025” ที่จะสรุปความคืบหน้าของวิธีการลงคะแนนแบบเข้ารหัส ยิ่งไปกว่านั้น ทีมงานกำลังพัฒนาโปรโตคอล DeFi ที่เป็นความลับซึ่งสามารถตอบสนองมาตรฐานการปฏิบัติตามข้อกำหนดสำหรับสถาบันได้

ปกป้องข้อมูลผู้ใช้ผ่าน Private Reads

ในส่วนของ private reads ทีมงานกำลังสร้างบริการ RPC ที่ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัว เนื่องจากปัจจุบันการเรียกใช้ RPC อาจเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น IP address หรือความสนใจของผู้ใช้ เพื่อแก้ปัญหานี้ PSE จึงได้จัดตั้งกลุ่มทำงาน private RPC ขึ้นมาเพื่อทดสอบแนวทางแก้ปัญหาที่เป็นไปได้

โรดแมปยังยืนยันว่ากำลังประเมินวิธีการจำกัดการเปิดเผยข้อมูลระหว่างการโต้ตอบกับบล็อกเชนอย่างต่อเนื่อง ส่วน private proving หรือที่เรียกว่า “prove anywhere” นั้นเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงการสร้างและการตรวจสอบ zero-knowledge proofs ให้ดียิ่งขึ้น โดย PSE กำลังพัฒนาเครื่องมือที่ทำให้การสร้างหลักฐานเหล่านี้เร็วขึ้นและมีราคาถูกลง ซึ่งรวมถึงการทำให้สามารถสร้างบนอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้ เพื่อลดการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานที่มีต้นทุนสูง

การทำงานร่วมกันและการมีส่วนร่วมของระบบนิเวศ

โรดแมปนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายในระบบนิเวศของ Ethereum โดย Richards ยกย่องการมีส่วนร่วมของ Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum, Oskar Thorén นักวิจัยอิสระ และ Silviculture Society ทีม PSE ย้ำว่ากรอบเวลาและโปรเจกต์จะพัฒนาไปตามความต้องการของระบบนิเวศ แม้ว่าทั้ง 3 ด้านหลักจะเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาไปอีกหลายปีก็ตาม

เอกสารยังเน้นย้ำว่าหากไม่มีความเป็นส่วนตัวที่มีประสิทธิภาพ Ethereum อาจมีความเสี่ยงที่จะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการสอดแนม โดย Richards เขียนว่าความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งจำเป็นในการปกป้องผู้ใช้ที่ต้องพึ่งพาเครือข่ายนี้

โรดแมปนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางที่มีโครงสร้างชัดเจน โดยผสมผสานโปรเจกต์ทดลอง, การปฏิบัติตามข้อกำหนดของสถาบัน และเป้าหมายทางเทคนิคระยะยาว ด้วยการกำหนด private writes, private reads, และ private proving ทีม PSE ได้นำเสนอวาระที่ชัดเจนสำหรับการพัฒนาเลเยอร์ความเป็นส่วนตัวของ Ethereum.

ที่มา https://cryptonewsland.com/ethereum-foundation-releases-roadmap-for-end-t/