ตึงเครียดพุ่ง! กว่า 10 ประเทศวอนพลเมืองออกจากยูเครน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ามีประเทศมากกว่า 10 ประเทศได้ร้องขอให้พลเมืองของตนเองเดินทางออกจากยูเครน ท่ามกลางความวิตกกังวลและการเตือนจากชาติตะวันตกว่ารัสเซียอาจรุกรานยูเครนในเร็วๆ นี้
สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย อิตาลี อิสราเอล เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และเยอรมนีเป็นเพียงส่วนหนึ่งของประเทศที่ร้องขอให้พลเมืองของตนเองเดินทางออกจากยูเครน ขณะที่อีกหลายประเทศได้สั่งให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตของตนเองที่ไม่จำเป็นเดินทางออกจากยูเครนแล้วเช่นกัน
แคนาดาได้สั่งการให้มีการย้ายการเจ้าหน้าที่ไปยังเมืองลวิว ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับพรมแดนของประเทศโปแลนด์ ขณะที่อังกฤษได้ระงับการให้บริการด้านกงสุลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยเจ้าหน้าที่กงสุลจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ จะประจำการอยู่ที่เมืองลวิว เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น
ด้านรัสเซียก็ประกาศว่าจะทำการเปลี่ยนแปลงการวางกำลังเจ้าหน้าที่ในสถานทูตของตนเองในยูเครนเช่นกัน โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของนักการทูตที่ประจำการอยู่ในยูเครน โดยระบุถึงการกระทำการอันเป็นการยั่วยุของรัฐบาลยูเครนและประเทศที่สาม
ทำเนียบขาวออกมาเตือนว่าการรุกรานยูเครนของรัสเซียอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และอาจเริ่มต้นด้วยการทิ้งระเบิดจากอากาศ ขณะที่รัสเซียออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าข้อกล่าวหาของสหรัฐเป็นการคาดเดาที่มีเจตนายั่วยุอย่างชัดเจน
สหรัฐยังประกาศถอนทหาร 150 นายที่ทำการฝึกอบรมทหารยูเครนออกนอกประเทศโดยอ้างว่าถึงข้อควรระวังมากมาย ขณะที่สายการบินเคแอลเอ็มของเนเธอร์แลนด์ประกาศว่าจะยุติการทำการบินไปยังยูเครนโดยมีผลทันที
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า การเตือนภัยเกี่ยวกับการรุกรานอาจทำให้เกิดความตื่นตระหนกขึ้นตามมา และหากมหาอำนาจตะวันตกมีหลักฐานที่แน่ชัด เขาก็ยังไม่ได้เห็นมัน และว่าขณะนี้มีข้อมูลมากเกินไปที่ปรากฏบนสื่อเกี่ยวกับสงครามเต็มรูปแบบ
“เราเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและเข้าใจว่ามันมีอยู่ แต่หากคุณหรือใครบางคนมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ 100% เกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ก็ขอให้แบ่งปันกับเราด้วย”ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าว