รวม 5 ไอเทมเทคโนโลยีเด็ดประจำปี 2023 | TNN Tech Reports
ปี 2023 ที่ผ่านมา บรรดาสตาร์ตอัปไปจนถึงบริษัทไอทีชั้นนำ ต่างนำเสนอนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์หรือน่าสนใจ ซึ่งก็มีทั้งของชิ้นใหญ่ ๆ อย่างระบบโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน นวัตกรรมอวกาศ ยานพาหนะและหุ่นยนต์ ไปจนถึงสิ่งของเล็ก ๆ ซึ่งบางผลงานก็ทำให้เราต้องทึ่ง กับความสามารถในการทำงาน ฟังก์ชัน การออกแบบที่อาจจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนเราในอนาคตได้เลย
"Humane AI Pin" อุปกรณ์สวมใส่ไร้จอ Gadget แห่งโลกอนาคต
เริ่มที่นวัตกรรมแรก ที่ผู้พัฒนาเชื่อว่าอาจมาแทนที่การใช้งานสมาร์ตโฟนได้ในอนาคต นั่นคือ ฮิวเมน เอไอ พิน (Humane AI Pin) อุปกรณ์สวมใส่แบบไร้จอ ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังเอไอ ผลงานจาก ฮิวเมน (Humane) บริษัทสตาร์ตอัปที่เป็นอดีตพนักงานบริษัท แอปเปิล (Apple)
มันมีหน้าตาคล้ายกับเข็มกลัดล้ำ ๆ ทรงสี่เหลี่ยม ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักด้วยกัน คือส่วนตัวเครื่อง หรือ เอไอ พิน (Ai Pin) ขนาดโดยประมาณ กว้าง 44 มิลลิเมตร ยาว 47 มิลลิเมตร หนัก 34 กรัม และส่วนแบตเตอรี หนัก 20 กรัม สองส่วนนี้สามารถเอามาประกบกันเพื่อหนีบติดกับเสื้อได้
ตัวเครื่องมาพร้อมกล้องความละเอียดขนาด 13 ล้านพิกเซล (13 MP) ใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์และระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นเองในชื่อ คอสมอส (Cosmos) ในการประมวลผลและควบคุมการทำงาน
จุดเด่นของอุปกรณ์ตัวนี้ คือการไม่มีหน้าจอเหมือนกับสมาร์ตโฟนทั่วไป แต่จะใช้เทคโนโลยี เลเซอร์ อิงค์ ดิสเพลย์ (Laser Ink Display) หรือการฉายภาพไปบนฝ่ามือของเราเพื่อใช้แทนจอภาพ โดยเราสามารถขยับนิ้ว ฝ่ามือ หรือแตะตัวเครื่องบริเวณทัชแพด (Touchpad) ร่วมกับการใช้คำสั่งเสียงเพื่อควบคุมการใช้งานต่าง ๆ ได้
และแม้ว่าจะไม่มีหน้าจอ แต่ก็ยังสามารถใช้งานอุปกรณ์ตัวนี้ในลักษณะที่คล้ายกับการใช้งานสมาร์ตโฟนในปัจจุบัน คือสามารถใช้โทรศัพท์ ส่งข้อความ ถ่ายภาพ ฟังเพลง หรือจะแตะตัวเครื่องเพื่อใช้คำสั่งเสียง พูดคุยกับเอไอ ให้ช่วยแปลภาษาก็ได้
ขณะที่ราคาจำหน่ายของ Humane AI Pin อยู่ที่ 699 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 25,000 บาท เริ่มจัดส่งต้นปี 2024 เป็นต้นไป
Motorola โชว์มือถืองอได้แบบกำไลข้อมือ
สมาร์ตโฟนรูปแบบใหม่ ๆ ยังคงน่าสนใจขึ้นเรื่อย ๆ หนึ่งในนั้นคือ สมาร์ตโฟนจากโมโตโรลา (Motorola) ซึ่งน่าสนใจด้วยดิไซน์แปลกแหวกแนว ที่สามารถบิด งอ ตัวเครื่องและหน้าจอได้ คล้ายเป็นเครื่องประดับสุดเก๋ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงสามารถใช้งานแบบธรรมดาได้ด้วย
ขนาดหน้าจอของสมาร์ตโฟนนี้อยู่ที่ขนาด 6.9 นิ้ว รองรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น อาจจะบิดตัวเครื่องให้งอ เพื่อให้มีฐานสำหรับวางสมาร์ตโฟนไว้บนพื้นราบ กลายเป็นขาตั้งกล้องในตัว คล้ายกับโทรศัพท์มือถือแบบพับได้ โดยเมื่อพับแล้วจะมีขนาดหน้าจอใช้งานอยู่ที่ 4.6 นิ้ว มีการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนเป็นกำไลข้อมืออัจฉริยะ เช่น ถ่ายรูปชุดที่ตัวเองกำลังสวมใส่ จากนั้นเอไอก็จะสร้างภาพศิลปะสำหรับตกแต่งหน้าจอตัวเครื่องให้แบบเรียลไทม์
โดยสมาร์ตโฟนนี้ ยังเป็นตัวต้นแบบ เผยโฉมในงานแสดงนวัตกรรมระดับโลก Lenovo Tech World 2023 เมื่อเดือนตุลาคม 2023 ที่ผ่านมา
Colorpik ปากกาดูดสีรอบตัว 16 ล้านสี
สำหรับใครที่ชอบวาดภาพระบายสี หรือทำงานดีไซน์ อาจจะเจอปัญหาที่ต้องหาเฉดสีให้ตรงตามที่ต้องการ
เพื่อแก้ปัญหานี้จึงมีการคิดค้น คัลเลอร์พิก (Colorpik) ปากกาอัจฉริยะที่สามารถดูดสีจากสภาพแวดล้อม แล้วเอามาทำเป็นน้ำหมึกสำหรับวาดบนกระดาษ หรือการใช้งานบนจอภาพแบบดิจิทัลได้ด้วย
สำหรับบริเวณหัวปากกามีการติดตั้งกล้องและเซนเซอร์ตรวจสอบสี อาร์จีบี คัลเลอร์ เซนเซอร์ (RGB Color Sensor) ผู้ใช้งานเพียงแค่นำปากกาไปวางจิ้มบนวัตถุที่ต้องการดูดสีแล้วกดปุ่ม ตัวเซนเซอร์ก็ตรวจจับและอ่านค่าสีที่ได้ เพื่อแปลงเป็นน้ำหมึกสำหรับใช้เขียน
ภายในตัวปากกา ยังมีถังใส่น้ำหมึกแบบเปลี่ยนได้ สีฟ้า สีแดง และสีเหลือง และจะผสมสีเหล่านี้ เพื่อสร้างสีที่เราต้องการได้กว่า16 ล้านสี และส่วนหัวปากกาสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 6 รูปแบบ รองรับการใช้งานบนแอปพลิเคชัน ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android การเชื่อมต่อไร้สายบลูทูธ รวมถึงใช้งานบนคอมพิวเตอร์ด้วยพอร์ต USB ใช้พลังงานแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 280 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 15 ชั่วโมง
โดยปากกา คัลเลอร์พิก (Colorpik) มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ด้ามละ 298 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 10,000 บาท
โคมไฟ AI ช่วยเหลือผู้สูงอายุ
โคมไฟอัจฉริยะ โนบิ (Nobi) จากบริษัทในเบลเยี่ยม ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุโดยเฉพาะ โดยมันสามารถแจ้งเตือนได้ หากผู้สูงอายุในบ้านได้รับบาดเจ็บหรือล้มลง
การทำงานของโคมไฟมีระบบตรวจจับสภาพแวดล้อมตลอด 24 ชั่วโมง มาพร้อมปัญญาประดิษฐ์หรือ AI โดยหากมันประมวลผลว่าผู้สูงอายุที่อยู่ในบ้านล้มหรือเกิดเหตุไม่ปกติขึ้น ตัวระบบจะทำการติดต่อไปยังผู้ดูแลภายใน 90 วินาที ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อการช่วยเหลือที่ทันท่วงที
โคมไฟโนบิสามารถติดตั้งในบ้านพักคนชราหรือโรงพยาบาลได้ เนื่องจากสามารถเปลี่ยนการแสดงผลไปเป็นแบบหน้าจอแดชบอร์ด ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามดูแลเหล่าผู้สูงอายุไปพร้อม ๆ กันได้
อย่างไรก็ตาม โนบิยังมีข้อจำกัดในการใช้งาน เพราะตัวระบบจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับระบบ Wi-fi ตลอดเวลา
ปัจจุบันโนบิวางจำหน่ายแล้วใน 21 ประเทศ โดยมีราคาค่าติดตั้งอยู่ที่ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 87,000 บาท
เครื่องปลูกพืชกึ่งอัตโนมัติ
ปิดท้ายด้วยไอเทมเทคโนโลยีแห่งปี 2023 กับ ผลงานเครื่องปลูกพืชกึ่งอัตโนมัติ จากการออกแบบของ อัค(Auk) บริษัทผู้พัฒนาสวนในร่มเพื่อการปลูกผักออร์แกนิกในพื้นที่จำกัด
สำหรับเครื่องปลูกพืชกึ่งอัตโนมัตินี้ มีองค์ประกอบ 3 ส่วน หนึ่ง คือไฟ LED ที่ออกแบบมาเพื่อเลียนแบบแสงแดดธรรมชาติ // สองคือระบบให้แร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับพืช // และสามคือระบบอัลกอริทึมที่ช่วยดูแลการเจริญเติบโตของพืช
โดยระบบอัลกอริทึมนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าการปลูกเมล็ดพันธุ์พืชกว่า 25 สายพันธุ์ เช่น พริก โหระพา ผักชี // เมื่อต้องการปลูกก็เพียงแค่หว่านเมล็ดลงในกระถาง ซึ่งจะมีพื้นที่เก็บสารอาหารอยู่บริเวณฐาน และถังเก็บน้ำขนาด 2.4 ลิตร ที่สามารถมองเห็นระดับน้ำได้อย่างชัดเจน
สำหรับการทำงานของระบบก็จะใช้ชิป NFC หรือเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลแบบไร้สายด้วยคลื่นความถี่ในระยะใกล้ คอยบอกระบบว่าเมล็ดพืชที่ปลูกเป็นพืชชนิดไหน และต้องการการดูแลอย่างไรบ้าง จากนั้นระบบจะส่งน้ำและสารอาหารไปยังฐานของกระถางแต่ละใบเป็นประจำ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถปรับความสูงของแผงไฟตามการเติบโตของพืชได้ด้วย
โดยผู้พัฒนาเคลมว่านวัตกรรมนี้ใช้น้ำน้อยลงกว่าการทำสวนแบบเดิมถึงร้อยละ 90 และยังใช้พลังงานไฟฟ้าแค่ 6 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อเดือน
เครื่องปลูกพืชกึ่งอัตโนมัติโนบิเตรียมวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 269 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9,000 บาท