รวม 8 จุด เช็กอินน่าท่องเที่ยวบนดาวอังคารที่ต้องไปเยือนในอนาคต
ในระบบสุริยะของเราดาวอังคารกลายเป็นจุดหมายที่มนุษย์ให้ความสนใจมากที่สุด เนื่องจากมีลักษณะขนาดและโครงสร้างของดาวเล็กกว่าโลกประมาณครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ดาวอังคารยังมีชั้นบรรยากาศที่ประกอบด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นส่วนใหญ่และมีจำนวนเบาบางมากกว่าโลก
การท่องเที่ยวและการสำรวจเป็นกิจกรรมที่มนุษย์ชื่นชอบมาตั้งแต่ยุคอดีต สิ่งเหล่านี้นำไปสู่การค้นพบใหม่ ๆ ซึ่งได้กลายเป็นรากฐานสำคัญของอารยธรรมนุษย์ในเวลาต่อมา
ในอนาคตหากการเดินทางไปดาวอังคารกลายเป็นเรื่องปกติคล้ายการเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารบนโลกที่พบเห็นได้ทั่วไป การเดินทางไปเที่ยวดาวอังคารอาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวก็เป็นไปได้ แม้ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันยังคงห่างไกลเรื่องดังกล่าวอยู่มากพอสมควร
1. ภูเขาไฟ Olympus Mons ขนาดใหญ่ที่สุดบนดาวอังคารและระบบสุริยะ ภูเขาไฟลูกนี้กลายเป็นจุดเด่นบนดาวอังคารที่ต้องไปเยือนโดยมันมีขนาดความสูงถึง 21 กิโลเมตร ความกว้างของภูเขาไฟ 600 กิโลเมตร
2. ภูเขาไฟ Tharis Volcanoes เขตภูเขาไฟเนื้อที่ 4,000 กิโลเมตร ความกว้าง 1,500 กิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณแนวภูเขาไฟทางด้านทิศตะวันตกของดาวอังคาร ตำแหน่งไม่ไกลจากภูเขาไฟ Olympus Mons
3. หุบเขา Valles Marineris รอยแผลบนดาวอังคาร ความลึก 7 กิโลเมตร ความยาวกว่า 4,000 กิโลเมตร และกลายเป็นเอกลักษณ์เด่นของดาวอังคารที่มองเห็นได้จากอวกาศ หุบเขาแห่งนี้ถูกถ่ายภาพไว้โดยยานมารินเนอร์ ในปี 1965
4. ขั้วโลกเหนือและใต้ดาวอังคาร ทรัพยากรและพลังงานในอนาคต พื้นที่เขตหนาวเย็น โดยในช่วงปี 2020 ดาวเทียมโคจรสำรวจดาวอังคาร Mars Express ได้ส่งข้อมูลการสำรวจกลับมายังโลกทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าใต้ผืนน้ำแข็งบนดาวอังคารมีทะเลสาบขนาดใหญ่ที่อยู่ลักษณะของเหลวจำนวนมาก
5. หลุมอุกกาบาต Gale Crater จุดลงจอดยาน Curiosity ในปี 2012 พื้นที่แห่งนี้ได้รับความสนใจจากนาซาเนื่องจากในอดีตเชื่อว่าบริเวณแห่งนี้เคยมีระบบน้ำไหลผ่านแหล่งสะสมของตะกอนจำนวนมาก ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะพบกับร่องรอยของสิ่งมีชีวิตในอดีต
6. หุบเขา Medusae Fossae พื้นที่ลึกลับขนาดยาว 1,000 กิโลเมตร และมีความกว้าง 500 กิโลเมตร นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าพื้นที่บริเวณนี้มีปริมาณของฝุ่นและหินจำนวนมากที่มาจากการปะทุของภูเขาไฟในอดีต
7. เส้นลาดเอียงในหลุมอุกกาบาต Hale Crater บริเวณพื้นที่ลาดเอียงที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามีของเหลวไล่ผ่านเป็นรอยบนพื้นผิว และอาจกลายเป็นพื้นที่สำคัญในการค้นพบของเหลวบนดาวอังคารเพิ่มเติมในอนาคต
8. เนินทรายผี Ghost Dones เนินทรายที่อาจเป็นร่องรอยของน้ำท่วมใหญ่ พื้นที่บริเวณนี้ในอดีตอาจเต็มไปด้วยน้ำ การไหลผ่านของน้ำหรือการเกิดน้ำท่วมในอดีต ประกอบกับกระแสลมที่พัดผ่านอยู่เป็นระยะเวลานาน
ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ
ESA/NASA/JPL/University of Arizona , Space