บอร์ด GIFT ไฟเขียวเข้าซื้อสินทรัพย์ธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม มูลค่าไม่เกิน 420.84 ลบ.
#GIFT #ทันหุ้น-บริษัท กิฟ อินฟินิท จำกัด(มหาชน) หรือ GIFT แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ในวันที่ 29 เม.ย. 2567 เพื่อพิจารณาและอนุมัติให้บริษัท กิฟท์ ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด หรือ GH ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าทำรายการซื้อสินทรัพย์เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage)จากผู้ขายจํานวน 3 ราย ได้แก่ (1) บริษัท บีม เอ็กซ์ จํากัด (“BEAMX”) (2) บริษัท โอโคโนมิ (ประเทศไทย)จํากัด (“OKONOMI”) และ (3) บริษัท มอมส์ ทัช (ประเทศไทย) จํากัด (“MOM'S TOUCH”) ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน
420.84 ล้านบาท
ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
(1) การเข้าซื้อสินทรัพย์จากบริษัท บีม เอ็กซ์ จํากัด คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 223.64 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น
(ก) การเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจร้าน BEAMCUBE ซึ่งเป็นสถานบันเทิงย่านสาทรจํานวน 1 สาขา ตั้งอยู่ในอาคารมหานคร คิวบ์ร้าน BEAM CLUB ซึ่งเป็นสถานบันเทิงย่านทองหล่อจํานวน 1 สาขา ตั้งอยู่ในโครงการ 72 คอร์ทยาร์ด และร้าน BEER BELLY ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยฟิวชั่น อาหารนานาชาติ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์จํานวน 1 สาขา ตั้งอยู่ในโครงการ 72คอร์ทยาร์ด ได้แก่ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้เครื่องตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 76 ล้านบาท
(ข) การเข้าซื้อตราสินค้าที่ใช้ในการประกอบธุรกิจได้แก่ ตราสินค้า BEAM และตราสินค้า BEER BELLY คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 32 ล้านบาท
(ค) การรับโอนสัญญาเช่าพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของร้าน BEAMCUBE จํานวน 1 สาขาจาก BEAMX โดยไม่คิดลค่า ทั้งนี้ ค่าเช่าคงเหลือตามสัญญาเช่าที่บริษัทย่อยจะต้องชําระให้แก่ผู้ให้เช่าเดิมที่ BEAMX เคยทําสัญญาเช่า ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 3.93 ล้านบาท
(ง) การเข้าทําสัญญาเช่าพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของร้าน BEAM CLUB จํานวน 1 สาขา และร้าน BEER BELLYจํานวน 1 สาขา กับผู้ให้เช่าจํานวน 3 รายโดยสัญญาแต่ละฉบับจะมีอายุสัญญา 3 ปี (ตั้งแต่วันที่5 กรกฏาคม 2567 –4 กรกฎาคม 2570) คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 111.71 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
(ง.1) ค่าเช่าตามสัญญาเช่าที่บริษัทย่อยจะต้องชําระให้แก่ผู้ให้เช่าซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 31.70 ล้านบาท โดยแบ่งออกเปนค่าเช่าจำนวนไม่เกิน 30.19 ล้านบาท และค่ามัดจำจำนวนไม่เกิน 1.51 ล้านบาท
(ง.2) ค่าเช่าตามสัญญาเช่าที่บริษ ทย่อยจะต้องชําระให้แก่ บริษัท เม็มเบอร์ชิป จํากัด(“MEMBERSHIP”) ในฐานะผู้ให้เช่าซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 69.27 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นค่าเช่าจํานวนไม่เกิน 65.97 ล้านบาท และค่ามัดจำจำนวนไม่เกิน 3.30 ล้านบาท
(ง.3) ค่าเช่าตามสัญญาเช่าที่บริษัทย่อยจะต้องชําระให้แก่ บริษัท บาร์ โทโร่ (ไทยแลนด์) จํากัด(“TORO”) ในฐานะผู้ให้เช่าซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 10.74 ล้านบาท แบ่งออกเป็นค่าเช่าจำนวนไม่เกิน 10.23 ล้านบาท และค่ามัดจำจำนวนไม่เกิน 511,560 บาท
(2) การเข้าซื้อสินทรัพย์จากบริษัท โอโคโนมิ (ประเทศไทย) จํากัด (“OKONOMI”) ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 95.81 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น
(ก) การเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจร้าน OKONOMI ซึ่งเป็นร้านอาหารและคาเฟ่ สไตล์ญี่ปุ่ น(Japanese Eatery & Café) ที่เน้นเสิร์ฟอาหารแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมไปจนถึงเครื่องดื่มและเบเกอรี่จากเมืองบรูกลิน มหานครนิวยอร์ก จํานวน 4 สาขา คือ สาขาสุขุมวิท 38 สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี สาขาเอ็มสเฟียร์และสาขาอโศก ทาวเวอร์ และร้าน YUJI RAMEN ซึ่งเป็นร้านราเมนนํ้าซุปกระดูกปลาชื่อดังจากเมืองบรูกลิน มหานครนิวยอร์กในเครือเดียวกับร้าน OKONOMIจํานวน 1 สาขา คือ สาขาเซ็นทรัล ชิดลม ได้แก่ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้เครื่องตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 41.50 ล้านบาท
(ข) การเข้าซื้อตราสินค้าที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ ได้แก่ ตราสินค้า OKONOMI และตราสินค้า YUJI RAMEN คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 17.50 ล้านบาท
(ค) การรับโอนสัญญาเช่าพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของร้าน OKONOMI จํานวน 4 สาขา และร้าน YUJI RAMENจํานวน 1 สาขา จาก OKONOMI โดยไม่คิดมูลค่า ทั้งนี้ ค่าเช่าคงเหลือตามสัญญาเช่าที่บริษัทย่อยจะต้องชําระให้แก่ผู้ให้เช่าเดิมที่ OKONOMI เคยทําสัญญาเช่า ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 36.81 ล้านบาท
(3) การเข้าซื้อสินทรัพย์จากบริษัท มอมส์ ทัช (ประเทศไทย) จํากัด (“MOM’S TOUCH”) ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 101.38 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น
(ก) การเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจร้าน MOM’S TOUCH ซึ่งเป็นร้านแฟรนไชส์ไก่ทอดเกาหลีและเบอร์เกอร์ต้นตํารับจากประเทศเกาหลีใต้ จํานวน 6 สาขา คือ สาขาเซ็นทรัลพระราม 9 สาขาเอส-โอเอซิส สาขาไอซีเอส สาขาสีลม คอมเพล็กซ์ สาขาเดอะมอลล์ไลฟ์ สโตร์ บางกะปิ และสาขาเดอะมอลล์ ไลฟ์ สโตร์ บางแค ได้แก่ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้เครื่องตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์เป็นต้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 30 ล้านบาท
(ข) การเข้าซื้อตราสินค้าที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ ได้แก่ ตราสินค้า MOM’S TOUCH คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 38 ล้านบาท
(ค) การรับโอนสัญญาเช่าพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของร้าน MOM’S TOUCH จํานวน 6 สาขา จาก MOM’S TOUCH โดยไม่คิดมูลค่า ทั้งนี้ ค่าเช่าคงเหลือตามสัญญาเช่าที่บริษัทย่อยจะต้องชําระให้แก่ผู้ให้เช่าเดิมที่ MOM’S TOUCH เคยทําสัญญาเช่า ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 33.38 ล้านบาท
สำหรับประโยชน์ที่ได้จากการลงทุนดังกล่าว
(1) บริษัทฯ มีโอกาสได้ลงทุนในธุรกิจใหม่ตามแผนการลงทุนที่บริษัทฯ ได้วางไว้ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุน (Private Placement) ของบริษัทฯ ที่ได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่1/2566 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์2566 และตามแผนการดําเนินการภายหลังการเข้าครอบงํากิจการในคําเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 247-4) เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566
(2) บริษัทฯ มีโอกาสได้ขยายการลงทุนไปยังธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ โดยบริษัทย่อยจะได้มาซึ่งสินทรัพย์เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage)ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นภายหลังจากผ่านพ้นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รวมทั้งจะเป็นการลดการพึ่งพิงธุรกิจเทคโนโลยีการสื่อสารซึ่งปัจจุบันเป็นธุรกิจหลักเพียงอย่างเดียวของบริษัทฯ ดังนั้น การที่บริษัทย่อยจะลงทุนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจะช่วยกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ และทําให้บริษัทฯ ได้ลงทุนในธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของรายได้และผลประกอบการของบริษัทฯ ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาวตลอดจนจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นทุกราย
(3) บริษัทจะมีผู้บริหารและทีมงานจาก BEAMX OKONOMI และ MOM’S TOUCH ที่มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) เข้ามาช่วยบริหารจัดการต่อซึ่งจะช่วยให้การดําเนินธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของบริษัทฯ สามารถดําเนินการได้อย่างต่อเนื่อง