BMงานจ่อ100ล. รอก่อสร้างฟื้นตัว ชูแบ็กล็อกแน่น

ทันหุ้น – BM แย้มออเดอร์นอกจ่อ 100 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อกแน่นมือ 400-500 ล้านบาท ฟากผู้บริหารประกาศขอคงเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1.2 พันล้านบาท ส่งซิกผลงานครึ่งปีแรกทะลุเป้า ส่วนครึ่งปีหลังรอปลดล็อกหนุนก่อสร้างฟื้นตัว เตรียมเปิดตัว “Mini EV Tuk-Tuk” ตามแผนปลายไตรมาส 3/64 นี้

นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก ใน 6 กลุ่มสินค้า เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2564 ต้องติดตามสถานการณ์ในประเทศอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจุบันกรุงเทพฯและปริมณฑลล็อกดาวน์ รวมถึงงานก่อสร้างหยุดโครงการชั่วคราว ทำให้บริษัทไม่สามารถส่งมอบสินค้าให้กับกลุ่มผู้รับเหมา(Construction) ได้

แบ็กล็อก 400 ล.

อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ คาดการขายสินค้าในกลุ่มผู้รับเหมา จะมีอัตราการเติบโตสูง เพราะบริษัทมีงานในมือ (Backlog) รอส่งมอบค่อนข้างมาก โดยมี Backlog อยู่ที่ราว 400-500 ล้านบาท แต่ในกลุ่ม B2B หรือการจำหน่ายเครื่องจักรกลทางการเกษตร โดยเฉพาะลูกค้าคูโบต้า ยังสามารถส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้ หากการส่งมอบงานให้กลุ่มผู้รับเหมาทำได้ตามปกติ คาดจะทำให้ผลประกอบการครึ่งปีหลัง 2564  เติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ส่วนในครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้เติบโตดี และมีแนวโน้มจะทำได้สูงกว่าเป้า

ทั้งนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 2564 ที่ 1.2 พันล้านบาท โดยจะพยายามส่งมอบสินค้าในครึ่งปีหลังให้ได้มากที่สุด ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลัง 2564 บริษัทจะเดินหน้าขายสินค้าอื่น เช่น ตู้โลหะ โดยการหาตัวแทนขายมากขึ้น เพื่อกระจายสินค้าเข้าสู่กลุ่มผู้ใช้งาน ทั้งนี้คาดสัดส่วนยอดขายจะยังใกล้เคียงกับปี 2563 หรือมีสัดส่วนจากกลุ่มผู้รับเหมาที่ 55% และกลุ่ม B2B ที่ 45%

สินค้าของบริษัท

อนึ่ง สินค้าของบริษัทครอบคลุมใน 7 กลุ่มงาน 1.กลุ่มงานรางและท่อร้อยสายไฟฟ้า  2.กลุ่มงานผลิตตู้โลหะ  3.กลุ่มงานตู้สวิตช์บอร์ด  4.กลุ่มงานเชื่อมประกอบ  5.กลุ่มงานกลุ่มเครื่องมือและเครื่องจักรกล  6.กลุ่มงานผลิตชิ้นส่วนให้กับคูโบต้า และ 7.กลุ่มธุรกิจอื่น ที่เป็นธุรกิจการค้าระหว่างหน่วยงานธุรกิจกับหน่วยธุรกิจ (B2B)

นายธีรวัต กล่าวต่อว่า ด้านการจำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้าต่างประเทศ ปัจจุบันมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถส่งมอบของได้ตามแผน เนื่องจากติดปัญหาเรื่องเรือและตู้คอนเทนเนอร์ แต่บริษัทจะพยายามส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้ามากที่สุด ปัจจุบันบริษัทมีออเดอร์จากลูกค้าอเมริกาเข้ามามาก จำนวน 200 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมเปิดตัว “Mini EV Tuk-Tuk” หรือ มินิ ตุ๊ก ตุ๊ก ไฟฟ้า ในปลายไตรมาส 3/2564 หรือต้นไตรมาส 4/2564 เพื่อใช้เป็นพาหนะรับ-ส่งผู้โดยสารส่วนบุคคลตามรีสอร์ต, โรงแรม, โรงพยาบาล, รถตุ๊ก ตุ๊ก พื่อขายอาหาร (Food Tuk-Tuk) และอื่นๆ หลังใช้เวลาในการศึกษาและพัฒนามากกว่า 5 ปี อีกทั้งบริษัทมีแผนจะเปิดแผนกผลิตแบตเตอรี EV เพื่อใช้ในมินิ ตุ๊ก ตุ๊ก ไฟฟ้าของบริษัทเอง คาดจะใช้เงินลงทุนไม่มาก เนื่องจากบริษัทมีความรู้ และความเชี่ยวชาญสำหรับการผลิตสินค้าแบตเตอรี EV อยู่แล้ว

ก่องสร้างโรงงาน

นอกจากนี้บริษัทได้เตรียมพื้นที่ 25 ไร่ เพื่อสร้างโรงงานฟรีโซน หรือโรงงานปลอดภาษี สำหรับนำเข้าวัตถุดิบ เพื่อใช้ผลิตสินค้า และส่งออก 100%  ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบที่ลดลง และสามารถแข่งขันด้านราคากับประเทศเพื่อนบ้าน หรือคู่แข่งทางการค้าได้ในอนาคต โดยบริษัทวางแผนจะก่อสร้างโรงงานฟรีโซน และเริ่มเดินเครื่องประมาณต้นปี 2565