เอาจริง! เชียงใหม่เข้ม ห้ามจัด ‘งานเลี้ยง’ ทุกรูปแบบ ไม่ใส่หน้ากากปรับ 2 หมื่น เริ่ม 26 เม.ย.
วันที่ 25 เมษายน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ มีมติให้ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 42/2564 เรื่อง มาตรการควบคุมการจัดกิจกรรมรวมคนจำนวนมาก โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ 1. ห้ามจัดกิจกรรมงานเลี้ยงสังสรรค์ทุกรูปแบบ 2. การประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของทุกศาสนา ณ ศาสนสถาน ให้ถือปฏิบัติตามประกาศหรือคำสั่งของผู้ปกครองของแต่ละศาสนา และให้จำกัดเฉพาะผู้มีตำแหน่งทำหน้าที่ในการประกอบพิธีกรรม 3. ห้ามจัดงานหรือกิจกรรมใดๆ ที่มีคนมารวมตัวกันตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป เว้นแต่เป็นการจัดกิจกรรมของทางราชการ ซึ่งต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดสำหรับงานอวมงคล ให้จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่เกิน 50 คน
นอกจากนี้ในคำสั่งยังระบุให้ผู้จัดกิจกรรม เจ้าของสถานที่ หรือผู้เข้าร่วมกิจกรรม ถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ให้จัดทำบัญชีรายชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมตามแบบที่กำหนด ส่งสาธารณสุขอำเภอพื้นที่ที่จัดกิจกรรม ทันทีที่เสร็จกิจกรรม
โดยให้ยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 35/2564 เรื่อง มาตรการการจัดกิจกรรมรวมคนจำนวนมาก ลงวันที่ 15 เมษายน 2564 และข้อ 2 ของคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 39/2564 เรื่อง การห้ามดำเนินการหรือการจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ลงวันที่ 17 เมษายน 2564 อีกด้วย สำหรับบทกำหนดโทษ ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2564 ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2564
และที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่มีมติ ออกคำสั่งที่ 43/2564 เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้ ให้ทุกคน ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่อเข้าไปยัง “พื้นที่ไม่ปลอดภัย” เพื่อป้องกันมิให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้โรคแพร่ออกไป จนเกิดการระบาดเป็นวงกว้างในพื้นที่
โดย คำสั่งที่ 43/2564 ได้นิยาม “พื้นที่ไม่ปลอดภัย” หมายถึง พื้นที่ที่มีการพบปะผู้คน หรือ มีการรวมกลุ่มของผู้คน อันได้แก่ ตลาด ห้างสรรพสินค้า ยานพาหนะสาธารณะ อาคารขนส่งผู้โดยสาร สถานีรถไฟ สนามบิน สถานที่ทำงาน และสถานที่สาธารณะต่างๆ พร้อมกันนี้ คำสั่งฉบับนี้ ยังสั่ง “ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน คณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ช่วยเหลือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อแห่งท้องที่ ในการให้คำแนะนำ สอดส่องดูแล ให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
ส่วนบทกำหนดโทษ ระบุไว้ว่า “ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ และคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท” โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2564 ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2564 เช่นเดียวกัน