เปิดเบื้องหลังคลิปหลอน ดวงวิญญาณพ่อกลับบ้านวันเก็บกระดูก

หลังผู้ใช้แอปพลิเคชั่น Tiktok ชื่อ "kanlayapinyokham" โพสต์คลิปพร้อมเขียนแคปชั่นว่า "พ่อกลับบ้าน....ในวันเก็บกระดูก" และยังอธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า ให้สังเกตดูที่เวลา 04.00.15 วินาที มีลูกไฟกลมลอยผ่านกล้อง โดยกล้องวงจรปิดตัวนี้จับตามความเคลื่อนไหว ซึ่งเจ้าของคลิปมองว่าพ่อของตนที่เสียชีวิตไปกลับบ้านจริงๆ

ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวถูกโพสต์เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา และหลังคลิปดังกล่าวเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย  ปรากฏว่ามีผู้เข้ามาชมเกือบ 2 ล้านครั้ง โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ส่วนใหญ่เชื่อว่า ดวงไฟที่เห็นน่าจะเป็นดวงวิญญาณของพ่อที่กลับบ้านมาในวันเก็บกระดูกจริง ตามความเชื่อของเจ้าของโพสต์

ล่าสุด วันนี้ (14 พ.ย.63) ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของบัญชี Tiktok ดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จนพบกับนางกัลยา ภิษโญคำ อายุ 43 ปี  ซึ่งเป็นผู้โพสต์คลิปดังกล่าว และน้องสาวคือ นางสาวภรณษา มโนกิตธนกร อายุ 40 ปี   

นางกัลยา ได้ชี้ให้ดูกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งภายบ้านพักที่เป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น โดยชั้นล่างเปิดเป็นร้านรับสกรีนเสื้อผ้า ชื่อ ใจดีทีเชิ้ต เอฟซีสกรีน ในตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเล่าว่า เหตุการณ์ในคลิปจะได้ยินเสียงเคาะเครื่องรีดเสื้อสกรีนดังขึ้น และเสียงสุนัขที่เลี้ยงไว้เห่า

ก่อนจะเห็นดวงไฟลอยผ่านหน้ากล้อง ทำให้กล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นกล้องอินฟาเรดที่จับภาพเคลื่อนไหวตามความร้อน จับภาพตามดวงไฟดังกล่าวจนลับหายไปจากมุมกล้อง 

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.00.15 น. ของวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่เธอจะต้องไปเก็บกระดูกของพ่อ คือ นายนิเวศน์ ภิญโญคำ อายุ 71 ปี  ที่เสียไปเมื่อวันที่ 6 ต.ค.ด้วยโรคมะเร็งปอด และฌาปนกิจไปเมื่อวันที่ 9 ต.ค.

นางกัลยา กล่าวต่อว่า ตนเองเป็นคนชอบดูคลิปวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในร้านย้อนหลังอยู่แล้ว และเมื่อมาดูกล้องย้อนหลังก็พบกับเหตุการณ์ดังกล่าว จึงเชื่อว่าจะเป็นดวงวิญญาณของพ่อที่กลับมาบ้านในวันที่ลูกๆ จะไปเก็บกระดูกของพ่อกลับบ้าน เพื่อรอให้ครบ 100 วันจึงจะนำไปลอยอังคารในแม่น้ำปิงที่วัดฟ้าฮ่าม ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่นำกระดูกของแม่มาลอยอังคาร

โดยหลังนำคลิปไปลงใน Tiktok ก็ไม่คาดคิดว่าจะมีคนเข้ามาชมมากมายขนาดนี้ เจตนาที่นำมาลงเพราะอยากเก็บไว้เป็นความทรงจำ รวมทั้งอยากให้หลายๆ คนช่วยกันดูและตัดสินว่า เป็นอย่างที่เธอเชื่อหรือไม่ สำหรับกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในบ้านนั้น ติดไว้เพื่อดูความเคลื่อนไหวของของพ่อที่ล้มป่วย โดยพ่อจะนอนอยู่บนเตียงบริเวณชั้นล่างของบ้าน และมีน้องสาวน้องเฝ้าทุกคืน

ขณะที่ นางสาวภรณษา มโนกิตธนกร อายุ 40 ปี น้องสาว เผยว่า ตนเชื่อว่าคลิปที่พี่สาวนำไปลงในติ๊กต๊อกเป็นดวงวิญญาณของพ่อจริง ที่กลับมาในวันที่ลูกๆจะไปเก็บกระดูก เพราะจุดที่ดวงไฟปรากฎคือหน้าต่างบานเกล็ด ซึ่งจุดนั้นข้างบ้านจะเป็นที่จอดรถจักรยานของพ่อที่ท่านรักมาก เพราะท่านจะโมดิฟายและดัดแปลงรถด้วยตัวเอง ทั้งติดไฟส่องสว่างหน้าและท้ายรถ เนื่องจากพ่อเป็นคนชอบออกกำลังด้วยการปั่นจักรยานเป็นประจำ แต่หลังล้มป่วยก็ไม่ได้ปั่นอีกกระทั่งเสียชีวิต

นางสาวภรณษา ยังเล่าอีกว่า มีอีกเหตุการณ์ที่เธอเชื่อว่า พ่อต้องการจะบอกเธอก่อนเสียชีวิต คือคืนวันที่ 6 ตุลาคม ขณะพ่อนอนอยู่บนเตียง และเธอนอนอยู่หน้าเตียงพ่อ ราวๆ ตี 2 ก็มีเสียงเคาะเครื่องรีดเสื้อสกรีนดังขึ้นเป็นจังหวะ จากนั้นเธอก็สะดุ้งตื่นและลุกขึ้นไปดูพ่อและจับที่ชีพจร  ก็พบว่าชีพจรของพ่อหยุดเต้นแล้ว จึงตะโกนเรียกพี่สาวที่นอนอยู่ชั้น 2 ลงมาดู เมื่อพี่สาวลงมาเรียกพ่อ แต่พ่อนอนนิ่งจึงจับลองจับชีพจรอีกครั้งก็พบว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว พี่สาวจึงฟุบหน้าร้องไห้กับอกพ่อทันที

จากนั้นเมื่อกลับมาย้อนดูกล้องวงจรปิด ก็เชื่อว่าเสียงเคาะนั้นเป็นเสียงเคาะที่พ่อตั้งใจจะปลุกเธอให้ตื่น เพื่อเป็นการร่ำลาเป็นครั้งสุดท้าย เพราะเครื่องนี้เป็นแผ่นเหล็กค่อนข้างแข็งแรง ไม่น่าจะเสียงดังได้เองหากไม่มีใครเคาะ ขณะเดียวกันพ่อก็มีอุปนิสัยเป็นคนขี้เล่น และมักจะหยอกล้อกับลูกหลานอยู่เป็นประจำ ทุกวันนี้เชื่อว่าพ่อยังอยู่ที่บ้าน ดูแลและเฝ้ามองพวกเธออยู่  ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้สึกกลัวพ่อแต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล หากไม่เกิดขึ้นกับตัวเองก็คงไม่เชื่อ