"Swatch" และ "Citizen" ถูกสอบปมกดราคาเสี่ยงผิดกฎอียู

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าแห่งอิตาลี ประกาศเริ่มกระบวนการสอบสวนอย่างเป็นทางการต่อ Swatch ผู้ผลิตนาฬิกาชื่อดังจากสวิตเซอร์แลนด์ และ Citizen ผู้ผลิตนาฬิกาจากญี่ปุ่น กรณีถูกกล่าวหาว่าใช้นโยบายเกี่ยวกับการตั้งราคาขายปลีกทางออนไลน์ที่อาจฝ่าฝืนกฎการแข่งขันของสหภาพยุโรป

การสอบสวนครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการที่ Swatch และ Citizen ถูกตั้งข้อสงสัยว่า มีการกำหนดหรือชี้นำราคาขายปลีกที่แสดงบนเว็บไซต์และช่องทางออนไลน์ของผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตในอิตาลี โดยลักษณะการดำเนินการอาจเข้าข่ายข้อตกลงแนวดิ่ง ระหว่างผู้ผลิตกับผู้ค้าปลีก ที่ทำให้ราคาขายไม่สามารถแข่งขันได้อย่างเสรีในตลาด

หน่วยงานอิตาลีระบุว่า บริษัททั้งสองอาจกำหนดราคาขายปลีกให้ตัวแทนจำหน่ายต้องปฏิบัติตาม และอาจมีการใช้มาตรการทางการค้าเชิงตอบโต้กับผู้จัดจำหน่ายที่ไม่ยินยอม เช่น การลดการสนับสนุนด้านสินค้า การจำกัดสิทธิ์การจัดสรรรุ่นยอดนิยม หรือมาตรการอื่นที่ทำให้ผู้ค้าปลีกเสียเปรียบเมื่อเทียบกับรายที่ปฏิบัติตามราคาที่กำหนด ซึ่งหากพิสูจน์ได้ว่ามีการดำเนินการจริง อาจเข้าข่ายขัดต่อกฎการแข่งขันของอียูที่ห้ามการควบคุมราคาในห่วงโซ่อุปทานในลักษณะนี้

เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานด้านการแข่งขันได้ลงพื้นที่ตรวจค้นและเก็บเอกสารที่สำนักงานของ Swatch และ Citizen ในอิตาลีเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อรวบรวมข้อมูล ทั้งในส่วนของนโยบายการตั้งราคา ข้อตกลงกับตัวแทนจำหน่าย และการสื่อสารทางธุรกิจที่อาจสะท้อนถึงการกำหนดราคาหรือการใช้มาตรการตอบโต้ในเชิงพาณิชย์

ด้าน Swatch ยืนยันว่าหน่วยงานอิตาลีได้เข้ามาขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการตั้งราคาสินค้าในเครือ โดยเฉพาะแบรนด์ Tissot Italy และ Mido Italy ซึ่งเป็นแบรนด์นาฬิกาที่อยู่ภายใต้มาตรการสอบสวนครั้งนี้ พร้อมระบุว่าบริษัทให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และต้องการให้ข้อเท็จจริงได้รับการตรวจสอบอย่างชัดเจน เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยในประเด็นการปฏิบัติตามกฎการแข่งขันของยุโรป

ในขณะเดียวกัน Citizen ยังไม่ได้แสดงความเห็น ซึ่งทำให้ตลาดยังคงจับตาท่าทีของบริษัทใกล้ชิด เนื่องจากธุรกิจนาฬิกาแบรนด์ญี่ปุ่นรายนี้มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและผู้ค้าปลีกในยุโรปจำนวนมากเช่นกัน

สำหรับภาพรวมตลาด นาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์และญี่ปุ่น โดยเฉพาะแบรนด์ระดับกลางถึงพรีเมียม มีการแข่งขันด้านราคาและการกระจายสินค้าค่อนข้างสูง การควบคุมราคาขายปลีกให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อาจช่วยรักษาภาพลักษณ์แบรนด์และระดับมาร์จินของผู้ผลิต แต่ในมุมของหน่วยงานกำกับดูแล นับเป็นประเด็นอ่อนไหวที่อาจจำกัดเสรีภาพของผู้ค้าปลีกในการกำหนดราคาและลดทางเลือกของผู้บริโภค

การสอบสวนของอิตาลีครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงคดีเฉพาะรายของ Swatch และ Citizen เท่านั้น แต่ยังอาจสะท้อนแรงกดดันที่เข้มข้นขึ้นต่อแบรนด์สินค้าระดับโลก ในการต้องปรับสมดุลระหว่างการรักษาโครงสร้างราคาและภาพลักษณ์ กับการปฏิบัติตามกฎการแข่งขันที่เข้มงวดของสหภาพยุโรปในยุคที่การขายออนไลน์และการเปรียบเทียบราคาทำได้ง่ายกว่าเดิมมาก