รีเซต

ไวรัสโคโรนา : รัฐบาลประกาศ “ภาวะฉุกเฉิน” ทั้งประเทศ 26 มี.ค.-30 เม.ย. สกัดโควิด-19

ไวรัสโคโรนา : รัฐบาลประกาศ “ภาวะฉุกเฉิน” ทั้งประเทศ 26 มี.ค.-30 เม.ย. สกัดโควิด-19
บีบีซี ไทย
25 มีนาคม 2563 ( 08:09 )
106
BBC

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงประชาชนผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทีวีพูล) ถึงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. -30 เม.ย.

"ผมจะเป็นผู้นำของภารกิจนี้ และรายงานตรงต่อคนไทยทุกคน" นายกฯ ระบุ

เขาระบุด้วยว่า หลังจากนี้ ศูนย์ประสานการปฏิบัติภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะยกระดับเป็น หน่วยงานพิเศษ ตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อบูรณาการการสั่งการทุกส่วนราชการอย่างมีเอกภาพรวดเร็ว เนื่องจากสถานการณ์วิกฤตต้องรวมศูนย์สั่งการเพื่อความชัดเจน ลดปัญหาต่างคนต่างทำ

ศูนย์ดังกล่าวจะมีนายกฯ เป็นประธาน พร้อมกำหนดตัวหัวหน้าผู้รับผิดชอบด้านต่าง ๆ มีดังนี้

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข - หัวหน้าผู้รับผิดชอบการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

ปลัดกระทรวงมหาดไทย - หัวหน้าผู้รับผิดชอบการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการ กทม.

ปลัดกระทรวงพาณิชย์ - หัวหน้าผู้รับผิดชอบการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการควบคุมสินค้าและเวชภัณฑ์

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ - หัวหน้าผู้รับผิดชอบการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการต่างประเทศและการคุ้มครองช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด - หัวหน้าผู้รับผิดชอบการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภท การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ

(รายละเอียดเพิ่มเติม บีบีซีไทยจะรายงานให้ทราบต่อไป)

วานนี้ (24 มี.ค.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการให้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19

แม้ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศว่าการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทยเข้าสู่ระยะ 3 อันหมายถึงเกิดการกระจายของเชื้อเป็นวงกว้างภายในประเทศ แต่โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยอมรับว่า มาตรการต่าง ๆ ที่รัฐไทยใช้ "เกินกว่าระยะ 2 ไปนานแล้ว"

ข้อมูล ณ วันที่ 25 มี.ค. พบว่า มีผู้ป่วยสะสม 934 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 4 ราย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 347 ราย ที่เหลืออยู่ในต่างจังหวัด และกระจายแทบทุกภาคแล้ว

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง