Seven & I กางแผนคุมต้นทุน รับมือ "ภาษีทรัมป์" l การตลาดเงินล้าน

สตีเฟน ดาคัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของกลุ่มบริษัทค้าปลีกของญี่ปุ่นกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า บริษัทคาดว่าจะต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมการค้าปลีกที่ท้าทายมากขึ้นเล็กน้อย เพราะภาษีศุลกากรที่ถูกกำหนดโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ผู้พยายามปฏิรูปการค้าโลก และขณะนี้ก็อยู่ในระหว่างการดำเนินการ น่าจะทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่ยากลำบากสำหรับผู้ค้าปลีก

ดาคัส ผู้นำจากนอกองค์กร ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในเดือนหน้า กล่าวเสริมว่า ผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดของภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อบริษัทจะอยู่ที่พฤติกรรมของผู้บริโภค มากกว่าที่จะอยู่ที่ซัพพลายเออร์โดยตรง

บริษัท Seven & i ต้องรับมือกับข้อเสนอซื้อกิจการมูลค่า 47,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก Alimentation Couche-Tard ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองลาแวล รัฐควิเบกของแคนาดา อย่างไม่เต็มใจ โดยกำลังพยายามเพิ่มมูลค่าองค์กร การดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าวส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นอยู่กับการปรับปรุงงานในสหรัฐฯ ที่มีร้านสะดวกซื้อมากกว่า 12,000 แห่ง โดยรายได้จากอเมริกาเหนือคิดเป็นร้อยละ 73 ของยอดขายทั้งหมดของ Seven & i

ดาคัส ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าคณะกรรมการพิเศษที่รับผิดชอบในการตรวจสอบข้อเสนอซื้อกิจการของ Couche-Tard ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานะของการเจรจา

พร้อมกล่าวอีกว่า การแต่งตั้งเขาเป็นซีอีโอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อเสนอซื้อกิจการ เพราะไม่ได้มีการพูดถึง Couche-Tard ในทีมผู้บริหารเนื่องจากไม่มีอะไรที่เราทำได้

หุ้นของ Seven & i มีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 2,100 เยนในเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา ต่ำกว่าราคาเสนอซื้อของ Couche-Tard ที่ 2,700 เยนต่อหุ้นอย่างมาก ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนมีความไม่มั่นใจว่าข้อตกลงดังกล่าวจะเกิดขึ้นหรือไม่