โมเดอร์นา เริ่มทดลองวัคซีนกระตุ้นเข็ม3 ต้านสายพันธุ์"โอมิครอน"โดยเฉพาะ

วันนี้ (27ม.ค.65) บริษัทผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 โมเดอร์นา (Moderna) ประกาศเมื่อวานนี้ (26 ม.ค.) เริ่มการทดลองทางคลินิกวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เพื่อต้านโควิดกลายพันธุ์ “โอมิครอน” โดยเฉพาะแล้ว โดยจะทดลองกับอาสาสมัครวัยผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไป ราว 600 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มเท่า ๆ กัน กลุ่มแรกเป็นผู้ที่เคยฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เวอร์ชั่นดั้งเดิมของโมเดอร์นา ครบ 2 เข็มแล้ว 

ส่วนกลุ่มที่ 2 เคยได้รับวัคซีนดั้งเดิมของโมเดอร์นา 2 เข็ม และได้ฉีดวัคซีนโควิดกระตุ้นเข็ม 3 ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใดไปแล้ว โดยทั้ง 2 กลุ่มจะได้รับการฉีดวัคซีนต้านโอมิครอนขั้นทดลองจำนวน 1 เข็มในการทดลองนี้

1 วันก่อนหน้านี้ บริษัทผลิตวัคซีนต้านโควิดคู่แข่งของโมเดอร์นา คือ ไฟเซอร์ (Pfizer) ร่วมกับ BioNTech ก็เพิ่งเริ่มการทดลองวัคซีนต้านโอมิครอนโดยเฉพาะไปแล้วเช่นกัน อาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองทั้งหมด 1,420 คนอายุ 18-55 ปี ไฟเซอร์คาดว่า จะสามารถเริ่มใช้วัคซีนต้านโอมิครอนได้ในเดือนมีนาคมนี้

ด้าน สเตฟาน แบนเซล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO ของโมเดอร์นา ยืนยันว่า สารแอนติบอดี้จากวัคซีนเข็ม 3 ของโมเดอร์นา เวอร์ชั่นดั้งเดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ยังคงมีฤทธิ์ลบล้างโอมิครอนได้ และยังตรวจพบสารแอนติบอดี้จากวัคซีนโมเดอร์นา เข็ม 3 ในร่างกายได้หลังฉีดไปแล้วครึ่งปี

แบนเซลกล่าวหลังจากโมเดอร์นาเพิ่งเปิดเผยข้อมูลวัคซีนโควิดกระตุ้นเข็ม 3 ของโมเดอร์นา เวอร์ชั่นดั้งเดิม ปริมาณที่ฉีด 50 ไมโครกรัม ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ยังคงสามารถต่อต้านโอมิครอนได้ แม้ว่า 6 เดือนหลังจากฉีดเข็ม 3 ไปแล้ว สารภูมิต้านทานหรือแอนติบอดี้ในร่างกาย ที่เกิดจากวัคซีนโมเดอร์นา จะลดลงอย่างรวดเร็วมากก็ตาม 

โดยการศึกษาของโมเดอร์นา พบว่า ประสิทธิภาพของโมเดอร์นา เวอร์ชั่นดั้งเดิมเข็ม 3 ในการต่อต้านโอมิครอน ลดลงอย่างมากถึง 6.3 เท่า เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของวัคซีนโมเดอร์นา ในการต่อต้านโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม ที่ลดลงเพียง 2.3 เท่าหลังฉีด 6 เดือน 

อย่างไรก็ตาม โมเดอร์นายืนยันว่า หลัง 6 เดือนแล้ว ยังคงตรวจพบสารแอนติบอดี้จากวัคซีนได้ในร่างกายผู้ที่ฉีดโมเดอร์นา  เวอร์ชั่นดั้งเดิมเข็ม 3 และยังคงป้องกันโอมิครอนได้

ภาพจาก TNN ONLINE