รีเซต

BGRIMกำไรดำเนินงานแกร่ง จ่อCODโค้งท้าย2โครงการ

BGRIMกำไรดำเนินงานแกร่ง จ่อCODโค้งท้าย2โครงการ
ทันหุ้น
12 พฤศจิกายน 2567 ( 11:48 )

#BGRIM#ทันหุ้น-BGRIM เผยผลงานไตรมาส 3/2567 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (NNP) – ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 808 ล้านบาท เติบโต 32.5% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณขายไฟฟ้าเติบโต 7.5% มาอยู่ที่ 3,908 กิกะวัตต์-ชั่วโมง เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จับตาไตรมาส 4 ปี 2567 เตรียมเปิด COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อู่ตะเภา เฟสหนึ่ง และ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมแบบติดตั้งบนบก KOPOS ในสาธารณรัฐเกาหลี ดันเป้ากำลังผลิตสู่ 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573

 

ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIMกล่าวว่าผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 เติบโตแข็งแกร่ง มี EBITDA อยู่ที่ 4,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% ด้วยปริมาณขายไฟฟ้าเติบโต 7.5% มาอยู่ที่ 3,908 กิกะวัตต์-ชั่วโมง เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจาก 1. ปริมาณไฟฟ้าขายให้แก่ กฟผ. เพิ่มขึ้น 12.9% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้าอุตสาหกรรม (SPP) 2 โครงการ ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2566 รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 280 เมกะวัตต์

 

และ 2. ปริมาณไฟฟ้าขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม (IUs) ในประเทศเวียดนาม รวมทั้งปริมาณขายไอน้ำในประเทศไทยที่เติบโตขึ้น 41.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากการขยายกำลังการผลิตของลูกค้าเดิม และความต้องการที่เพิ่มขึ้น

 

สำหรับกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (NNP) – ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 808 ล้านบาท เติบโต 32.5% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปัจจัยหลักที่กล่าวไปข้างต้น รายได้จากการให้บริการที่สูงขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ กำไรสุทธิ – ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ ซึ่งเป็นกำไรที่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง และเป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสด จะอยู่ที่ 163 ล้านบาท

 

รุกฐานลูกค้าIUs อัพแกร่ง

 

จากความสำเร็จตลอดช่วง 9 เดือนของปี 2567 บี.กริม เพาเวอร์ มีการเชื่อมเข้าระบบของลูกค้า IUs รายใหม่ในประเทศไทยจำนวน 11.2 เมกะวัตต์ และจะมีการเชื่อมเข้าระบบของลูกค้า IUs รายใหม่เพิ่มในไตรมาสที่ 4ด้วยโครงการที่มีในปัจจุบันนับเป็นรากฐานที่ดีที่จะช่วยให้ บี.กริม เพาเวอร์ เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต

 

สำหรับในไตรมาส 3ปี2567  บี.กริม เพาเวอร์ ประสบความสำเร็จในการนำเข้า LNG ลำแรก จำนวน 65,000 ตัน และลำที่สองในเดือนตุลาคม 2567 เพื่อนำเข้าสู่ระบบ Pool Gas โดยในช่วงเริ่มต้น ก๊าซที่นำเข้าจะส่งผ่านไปยังระบบ Pool Gas เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมของบริษัททั้งสิ้น 10โครงการ

 

นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Lohas ECE Spain Gifu Co., Ltd. ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตติดตั้ง 20 เมกะวัตต์ และมีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ระยะเวลา 25 ปี ของบริษัทย่อยและการร่วมค้าจำนวน 8 บริษัท เพื่อพัฒนาและดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดโครงการรวม 323.3 เมกะวัตต์ มีกำหนดเปิด COD ตั้งแต่ปี 2569 ถึง 2573

 

จ่อCODโค้งท้าย2โครงการ

 

ขณะที่ไตรมาส 4 ปี 2567 เตรียมเปิด COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 2 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อู่ตะเภา เฟสหนึ่ง และ 2) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมแบบติดตั้งบนบก KOPOS ในสาธารณรัฐเกาหลี

 

“เป้าหมายระยะยาวของ บี.กริม เพาเวอร์ คือการเพิ่มกำลังผลิตสู่ 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 พร้อมตั้งเป้าหมายสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลกและบรรลุเป้าหมายการก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emissions) ภายในปี 2593” ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าว

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง