หุ้น GRAB น่าสนใจไหม อยากซื้อต้องทำอย่างไรบ้าง

ข่าววันนี้ GRAB ที่ซื้อขายในตลาด NASDAQ เปิดตลาดวันแรกในวันที่ 2 ธันวาคมที่ราคา 13.06 เหรียญ จากนั้นอ่อนตัวลงปิดที่ 8.74 เหรียญ เกือบเป็นระดับต่ำสุดของวัน ซึ่งสะท้อนความกังวลของนักลงทุนว่าบริษัทจะฟื้นตัวหลังจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 ได้หรือไม่ รวมไปถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

ก่อนหน้านี้ดีลการเข้าซื้อหุ้นแกร็ปแท็กซี่ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) ของบริษัทเซ็นทรัล รีเทลคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ถ้าอ่านตอนท้ายของของจดหมายที่บริษัทฯ ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพบว่า บริษัทมีสิทธิ์ในการแลกหุ้นแกร็ปแท็กซี่ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) ทั้งหมดหรือบางส่วน ไปเป็นหุ้น Grab Holdings Limited [GRAB] ที่จดทะเบียนในตลาด NASDAQ

โกสินทร์ เจือศิริภักดี Head of Cross Border and Electronic Trading – บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าทุกวันนี้คนไทยสามารถออกไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศผ่านบริษัทหลักทรัพย์ในไทย ด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก แทบจะไม่ต่างจากการซื้อหุ้นในตลาดไทยเลย 

สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ด้วยตนเองผ่านอินเตอร์เน็ต ค่าคอมมิสชั่นก็ไม่ได้แพงเหมือนในอดีต สามารถสอบถามบริษัทหลักทรัพย์ที่ใช้บริการอยู่ได้ แต่สาระสำคัญวันนี้ที่อยากจะนำมาฝาก คือข้อมูลที่น่าสนใจของ Grab Holdings Limited [GRAB] 

GRAB เป็นผู้ให้บริการเรียกรถและสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นมือถือรายใหญ่ที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ วางตำแหน่งของตนเองเป็น Superapp ที่มีบริการหลากหลายให้เลือก โดยแบ่งกลุ่มรายได้ออกเป็น การเรียกรถ (Mobility) การสั่งซื้ออาหารหรือสินค้า (Deliveries) การบริการทางการเงิน (Financial Services) 

ล่าสุดบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 เมื่อเดือนพฤศจิกายน ขาดทุน 988 ล้านเหรียญมากกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 621 ล้านเหรียญ อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวอาจจะไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงเกี่ยวกับการดำเนินงานเนื่องจากผลกระทบของการบันทึกบัญชี IFRS ดังนั้นจึงต้องไปดู Adjusted EBITDA ในไตรมาสนี้ติดลบ 212 ล้านเหรียญ คิดเป็น -5.3% ของมูลค่าสินค้าและบริการผ่านแพลตฟอร์ม 

เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ติดลบ 128 ล้านเหรียญ คิดเป็น -4.2% ของมูลค่าสินค้าและบริการผ่านแพลตฟอร์ม แม้ตัวเลขอาจจะดูไม่ได้ดีมากนัก แต่มูลค่าสินค้าและบริการผ่านแพลตฟอร์ม (Gross Merchandise Value) เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การเติบโตมาจากบริการสั่งซื้ออาหารหรือสินค้าที่ขยายตัวถึง 63%

จะเห็นได้ว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศนั้น เปิดโอกาสให้เราได้รู้จักบริษัทใหม่ๆ ที่ไม่มีให้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของไทย รวมถึงท้าทายความสามารถในการวิเคราะห์ธุรกิจ การประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจ และความรู้ความเข้าใจในท้องถิ่น ดังนั้นจึงต้องศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน สำหรับนักลงทุนที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมของหุ้น GRAB สามารถติดตามข้อมูลได้จากเว็บไซต์นักลงทุนสัมพันธ์ที่ https://investors.grab.com/