สังหารเพราะ "เกลียดผู้หญิง" กระแสวิปริตที่เริ่มระบาด จากกรณีพุ่งเป้าสังหารอินฟลูเอนเซอร์สาวในลาตินอเมริกา

เป็นผู้หญิงสวย เป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียง และความเป็นผู้หญิงนี้เอง ที่อาจทำให้เป็นเป้าหมายล่าสังหารโดยฆาตรกรชายหนุ่ม
ไม่นานมานี้ อินฟลูเอนเซอร์สาวชาวเม็กซิกัน ผู้ติดตามหลักแสน วาเลเรีย มาร์เควซ กำลังไลฟ์สด TikTok ในร้านเสริมสวย ก่อนถูกชายแปลกหน้า ยิงสังหารกลางไลฟ์สด
ไม่นานต่อมา มาเรีย โฮเซ เอสตูปินัน นักศึกษา นางแบบ และอินฟลูฯ สาววัย 22 ปีในโคลอมเบีย ถูกชายที่ปลอมตัวเป็นคนส่งของ ยิงสังหารระยะเผาขน ขณะที่เธอกำลังเปิดประตูบ้าน
แม้จะเกิดคนะละประเทศ แต่ทางการชี้แรงจูงใจว่า นี่คือ Femicide หรือ พฤติกรรมเจตนาสังหารเพราะเหยื่อเป็นเพศหญิง และเหยื่อทั้งสองก็เป็นอินฟลูฯ หญิง ที่เผยแพร่ชีวิตโก้หรู และความสำเร็จในโลกออนไลน์
แม้การฆาตกรรมที่เหยื่อเป็นผู้หญิง จะไม่ใช่พฤติกรรมสังหารแบบเลือกเพศทั้งหมด แต่ลาตินอเมริกา เป็นภูมิภาคที่การฆาตกรรมลักษณะนี้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
รายงานขององค์การอนามัยโลก ชี้ว่า Femicide ส่วนใหญ่แล้วผู้ก่อเหตุมักเป็นผู้ชาย และมักเป็นคู่รักหรือคนในครอบครัว
แรงจูงใจเกิดได้หลายอย่าง ทั้งบทบาทที่เพิ่มขึ้นของผู้หญิงในสังคม ความคาดหวังของสังคม การเหมารวมผู้หญิง และบรรทัดฐานที่บิดเบี้ยวทางสังคม
แล้วเรื่องนี้ใหญ่แค่ไหน ต้องบอกว่า ทุก ๆ 10 นาที จะมีผู้หญิงหรือเด็กผู้หญิง 1 คนเสียชีวิตทุก
ปี 2023 มีผู้หญิงกว่า 51,100 คนทั่วโลก ถูกสังหารโดยคนรักหรือคนในครอบครัว
ในจำนวนนี้ เป็นเหยื่อผู้หญิงในเอเชียถึง 18,500 คน
ข่าวฆาตกรรมผู้หญิงในประเทศไทย หลายเคส ก็มีเค้ารางของการเป็นพฤติกรรม Femicide ที่เหยื่อถูกฝ่ายชายใช้อำนาจกดทับ และท้ายสุดก็ถูกสังหาร
สังคมออนไลน์ ยิ่งเป็นตัวแปรสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่า เริ่มมีเหยื่อที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ ที่มีตัวตนในโลกออนไลน์ ในภาวะที่ผู้ชายจำนวนมาก อาจรู้สึกถึงความไม่เท่าเทียม
ที่สำคัญคือ หากเรารับอิทธิพลทัศนคติเกลียดชังผู้หญิง จากอินฟลูเอนเซอร์ ยกตัวอย่าง แอนดรูว์ เทต ที่ประกาศตัวว่าเกลียดชังผู้หญิง และเหยียดเพศ นี่ก็ถือเป็นเรื่องอันตรายมากในสังคม