รีเซต

STOWERย้ำพลิกกำไร กางแผนชิงงาน5พันล.

STOWERย้ำพลิกกำไร กางแผนชิงงาน5พันล.
ทันหุ้น
28 กันยายน 2564 ( 07:08 )
312
STOWERย้ำพลิกกำไร กางแผนชิงงาน5พันล.

ทันหุ้น - STOWER มั่นใจปั๊มผลงานปี 64 พลิกกำไรจากปีก่อนที่ขาดทุน พร้อมกางแผนปี 65ลุยประมูลงานเสาสัญญาณ และสถานีไฟฟ้าย่อย มูลค่ารวมกว่า 4-5พันล้านบาท พร้อมเดินหน้าขยายเสาโทรคมนาคมในประเทศฟิลิปปินส์ คาดใช้งบ 500ล้านบาท

 

นายธีรชัย  ลีนะบรรจง  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการ บริษัท สกาย ทาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STOWER เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 3/2564 คาดว่าอาจชะลอตัวว่าเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน หลักๆ เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ที่ค่อนข้างมีความรุนแรงและขยายตัวเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา การล็อกดาวน์ทำให้การส่งมอบงานหลายโครงการมีความจำเป็นต้องเลื่อนกำหนดออกไป ทำให้การรับรู้รายได้ไม่เป็นไปตามกำหนดเดิมที่วางไว้

 

*มั่นใจงบพลิกกำไร

 

ทั้งนี้บริษัทยังคงมีความมั่นใจว่าผลการดำเนินงานรวมในปี 2564 ในแง่ของกำไรจะยังคงเป็นบวกได้อยู่ จากปี 2563ที่มีผลขาดทุน -310.61 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6เดือนแรกของปีนี้บริษัทสามารถสร้างกำไรได้แล้วที่ระดับ 24.57ล้านบาท ในขณะที่รายได้รวมมองว่าอาจมีการเติบโตที่ใกล้เคียงในระดับเดียวกันกับปีก่อนที่ 473.77ล้านบาท จากในช่วงครึ่งแรกปีนี้บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 143.14ล้านบาท หลักๆ เป็นเพราะไม่มีการบันทึกผลขาดทุนจากธุรกิจโรงไฟฟ้าเข้ามาอีก เนื่องจากได้มีการจัดการให้เป็นสินทรัพย์เพื่อขายไว้แล้ว

 

ขณะที่ในปี 2564 บริษัทยังคงมุ่งการลงทุนขยายสถานีฐาน และเสาเทเลคอมให้เช่าในประเทศฟิลิปปินส์เป็นหลัก เพราะเป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก แต่โครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมยังไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ที่ปัจจุบันมีเสาโทรคมนาคมเพียง 23,000 ต้น และมีขนาดประชากรมากกว่า 109ล้านคน ซึ่งเมื่อเทียบกับไทยที่มีเสาโทรคมนาคม 65,000ต้น มีขนาดประชากรประมาณ 70 ล้านคน สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสที่จะได้รับสัญญางานใหม่เข้ามาเพิ่มในอนาคต ตามนโยบายของรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่สนับสนุนการลงทุนด้านโทรคมนาคมเพิ่มมากขึ้น วางเป้าหมายเพิ่มจำนวนสถานีอีกกว่า 50,000 สถานี

 

** ควักงบลงทุน 500 ล.

 

โดยบริษัทตั้งเป้าใช้เงินลงทุนไว้ที่ประมาณ 500-600 ล้านบาท หรือใช้เงินลงทุนอยู่ที่ประมาณ 4.7ล้านบาทต่อสถานี รองรับสำหรับการก่อสร้างสถานีฐานและเสาเทเลคอมให้เช่าในระยะยาว 15-25 ปี ให้กับบริษัทผู้ให้บริการมือถือในประเทศฟิลิปปินส์ จำนวน 140สถานี ในปี 2564 จากเป้าหมายก่อสร้างสถานีฐานและเสาเทเลคอม ในช่วง 3 ปี จากนี้ (64-66) เพิ่มเป็นกว่า 620 สถานี ซึ่งในปี 2565จะเพิ่มอีกจำนวน 240 สถานี คาดใช้ระยะเวลาการก่อสร้างประมาณ 4เดือนต่อสถานี และคาดว่าจะสามารถสร้างได้ไม่น้อยกว่า 15-20สถานีต่อเดือน

 

และเมื่อดำเนินการก่อสร้างครบ 620 สถานีในปี 2566จะสามารถรับรู้รายได้จากการให้เช่าเสาโทรคมนาคมอยู่ที่ราว 400-500ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้ารายแรกแล้ว คือ DITO Telecommunity ซึ่งเป็นถือหุ้นใหญ่โดย CHINA TELECOMMUNICATIONS CORPORATION รัฐวิสาหกิจชั้นนำของประเทศจีน ที่ได้รับสัมปทานคลื่นความถี่ 700 MHz ถึง 3500 MHz ระยะเวลา 25 ปีจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ และมีความต้องการติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณบนเสาโทรคมนาคมจำนวนมาก รวมถึงยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้เล่นรายใหญ่ในฟิลิปปินส์อีก 1-2ราย เพื่อเช่าเสาโทรคมนาคม (Tower Co)

 

** รุกประมูลงานใหม่

 

ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมีความสนใจในการเข้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ โดยเฉพาะโครงการลงทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. (EGAT) ทั้งส่วนของโครงการเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงและโครงเหล็กสถานีไฟฟ้าย่อย และเสาโทรคมนาคม ที่คาดว่าในปี 2565 จะมีมูลค่ารวมมากกว่า 4,000-5,000ล้านบาท สำหรับสัดส่วนรายได้ในปี 2565คาดว่าจะมาจากการขยายและให้บริการในไทยประมาณ 60%ที่เหลืออีก 30-40% มาจากฟิลิปปินส์ และในปี 2566คาดว่าสัดส่วนรายได้ในไทยและฟิลิปปินส์จะใกล้เคียงกันที่ 50/50

ข่าวที่เกี่ยวข้อง