รีเซต

BRIขยายพอร์ตตุนแบ็กล็อก ลุยเปิด8โครงการโค้งส่งท้าย

BRIขยายพอร์ตตุนแบ็กล็อก ลุยเปิด8โครงการโค้งส่งท้าย
ทันหุ้น
17 พฤศจิกายน 2566 ( 10:41 )
63

#BRI #ทันหุ้น – BRI มองตลาดอสังหาโค้งสุดท้ายเป็นไฮซีซันของบ้านแนวราบ ลุยเปิด 8 โครงการใหม่มูลค่า 10,150 ล้านบาท มั่นใจยอดขายไตรมาส 4/2566 โตมากกว่าไตรมาส 3/2566 ทยอยรับรู้รายได้ Backlog ราว 1,680 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ปีนี้เกือบทั้งหมด มองแนวโน้มปี 2567 หวังเศรษฐกิจฟื้น หนุนกำลังซื้อ

 

นายสุรินทร์  สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 4/2566 จะปรับตัวดีขึ้นมากกว่าไตรมาสที่ 3/2566 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจอสังหาแนวราบ และมีโครงการที่เปิดในช่วงไตรมาสที่ 3/2566 จำนวน 3 โครงการที่จะทยอยรับรู้รายได้เพิ่มเข้ามา

 

ได้แก่ แกรนด์ บริทาเนีย วงแหวน-ประชาอุทิศ ,โครงการแกรนด์ บริทาเนีย ทวีวัฒนา คาดว่าจะเริ่มโอนในไตรมาสที่ 4/2566 และบริทาเนีย บางนา-เทพารักษ์ คาดว่าจะเริ่มโอนในต้นเดือน ธันวาคม 2566 นี้

 

ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ราว 1,680 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ในช่วงไตรมาสที่ 4/2566 และต่อเนื่องไปถึงต้นปี 2567 โดยแผนธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าด้านการตลาด การจัดแคมเปญเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพิ่มเติม เชื่อว่าจะช่วยสร้างยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ใหม่ และรักษาระดับการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง

 

*เปิด 8 โครงการโค้งท้าย

 

สำหรับช่วงไตรมาส 4/2566 บริษัทเตรียมเปิด 8 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 10,150 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ บริทาเนีย (Britania) 5 โครงการ ,แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) 1 โครงการ,เบลกราเวีย (Belgravia) 1 โครงการและแบรนด์บัลโค (Balco) 1 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการพูลวิลล่าระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี เพื่อขยายฐานลูกค้าเซ็กเมนต์ใหม่โดยโครงการแรกจะตั้งอยู่ที่ภูเก็ต

 

ในปี 2566 ยังมั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 13,000 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตแบบ All Time High และเป้ารายได้รวมที่ 9,000 ล้านบาท โดยช่วง 9 เดือนแรกของปี บริษัทสามารถทำยอดขายไปแล้ว 8,496 ล้านบาท สำหรับรายได้อยู่ที่ 4,769 ล้านบาท

 

สำหรับภาพรวมอสังหาหากจะดีขึ้นในปี 2567 บริษัทมองว่าต้องมาจากมาภาพรวมเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ซึ่งจะสามารถช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาส่งเสริมธุรกิจอสังหาถือว่าเป็นผลดีในทุกๆ มาตรการ แต่บริษัทมองว่ามาตรการที่น่าจะมีผลโดยตรงต่อบริษัท ได้แก่ มาตรการ LTV ที่จะมีผลต่อบ้านราคาระดับสูง

 

*ปี67เดินหน้าขยายพอร์ต

 

ขณะที่ในปี 2567 เบื้องต้นยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแต่บริษัท คาดว่าจะเปิดโครงการใหม่ใกล้เคียงกับปี 2566 หรือไม่ต่ำกว่า 20 โครงการ ปัจจุบันมีที่ดินรองรับเพื่อรอการพัฒนาเป็นที่เรียบร้อย มูลค่ารวมเกือบ 30,000 ล้านบาท

 

“เรามีแผนการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรในทำเลใหม่ ๆ และกระจายเซ็กเมนต์ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมในการบุกอย่างครอบคลุม ส่งผลให้เราสามารถกระจายทั้งความเสี่ยงในการบุก และกระจายโอกาสในการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน เรายังเดินกลยุทธ์จับมือพันธมิตรเจ้าของที่ดิน หรือ แลนด์ลอร์ด ในการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ส่งผลให้ต้นทุนในการพัฒนาโครงการลดลง และช่วยให้ภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทยังเติบโตขึ้น” นายสุรินทร์ กล่าว

 

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่าแนวโน้มกําไรปกติ BRI ไตรมาส 4/2566 คาดว่าจะฟื้นตัว q-q, y-y จากแผนเปิดตัวในไตรมาส 4/2566 เพิ่มขึ้นกว่า 8 โครงการ มูลค่ารวม 1 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 48% ของเป้าทั้งปีและประมาณการกําไรปกติปี 2566-2567 ที่ 1.3 พันล้านบาท (+26% y-y) และ 1.36 พันล้านบาท (+2% y-y)

 

โดยปี 2567 คาดบริษัทมีแผนรุกเปิดตัวโครงการใหม่จํานวนมาก เบื้องต้นคาดระดับ 2.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท แต่เรายังมีมุมมองระมัดระวังต่อตลาดแนวราบที่มีความท้าทายและสภาพการแข่งขันสูง คงราคาเหมาะสมปี 2567 ที่ 10.40 บาท ราคาหุ้นปรับลงจน Valuation จูงใจ หุ้นซื้อขายบน PE2024 เพียง 4.5x และคาดให้ปันผล 10% ต่อปี คงคําแนะนํา"ซื้อ"

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง