รีเซต

นิสิตจุฬาฯ พัฒนาวิธีแก้ปัญหาลูกเต่าหลงทางด้วยที่ครอบหลอดไฟ โคโค่แลมป์

นิสิตจุฬาฯ พัฒนาวิธีแก้ปัญหาลูกเต่าหลงทางด้วยที่ครอบหลอดไฟ โคโค่แลมป์
TNN ช่อง16
15 ตุลาคม 2567 ( 16:12 )
20

กลุ่มนิสิตคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผุดไอเดียนวัตกรรม “โคโค่แลมป์” อุปกรณ์ครอบหลอดไฟ เบนแสงไฟบริเวณชายหาดที่รบกวนการวางไข่ของเต่าทะเล และช่วยลูกเต่าคลานลงทะเลได้อย่างปลอดภัย นวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์เต่าทะเลและส่งเสริมการอยู่ร่วมกันของมนุษย์และเต่าทะเล



หลอดไฟ ภัยเต่าทะเล

เต่าทะเลในประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ ภัยคุกคามมีอยู่ด้วยกันหลายประการ หนี่งในนั้นคือแสงไฟจากโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหารบริเวณชายหาดที่เป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเล แสงไฟเหล่านี้รบกวนการวางไข่ของแม่เต่าทะเล และที่สำคัญคือมีผลทำให้ลูกเต่าที่ฟักออกมาเกิดความสับสน แทนที่จะเดินลงทะเล กลับเดินไปยังพื้นที่ที่มีแสงสว่าง เป็นเหตุให้ลูกเต่าจำนวนไม่น้อยต้องติดอยู่บนชายหาด ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกล่า ทำร้าย และขาดน้ำตายในที่สุด


ปัญหานี้เป็นแรงผลักดันให้เกิดทีม Turtle Rangers นิสิตจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พัฒนา “โคโค่แลมป์” อุปกรณ์ครอบหลอดไฟที่จะช่วยเบนแสงไฟให้เหมาะสมกับเต่าทะเลตามหลัก Turtle friendly เพื่อให้ลูกเต่าคลานลงทะเลได้อย่างปลอดภัย


“เราได้ศึกษาข้อมูลตัวอย่างจากเกาะแอนนามาเรีย รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่แสดงให้เห็นว่าการจัดแสงไฟให้เป็นมิตรต่อเต่าทะเลสามารถลดจำนวนลูกเต่าที่หลงทางได้อย่างมีนัยสำคัญ เราจึงคิดค้นนวัตกรรม “โคโค่แลมป์” เพื่อช่วยแก้ปัญหาแสงไฟที่รบกวนการวางไข่และการคลานลงทะเลของลูกเต่าทะเล ในขณะเดียวกัน ก็ไม่เปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ พวกเราอยากให้คนและเต่าอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข” นางสาวมนพัทธ์ สีเงิน คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในสมาชิกทีม Turtle Rangers กล่าวถึงแนวคิดในการพัฒนา “โคโค่แลมป์”


โคโค่แลมป์ ที่ครอบหลอดไฟเพื่อช่วยชีวิตลูกเต่าทะเล

โคโค่แลมป์เป็นนวัตกรรมครอบหลอดไฟเบนแสงสำหรับเต่าทะเล ที่ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับหลักการจัดแสงที่เป็นมิตรต่อเต่าทะเลตามข้อเสนอแนะขององค์กรบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่าแสงไฟต้องอยู่ในระดับต่ำ ใช้หลอดไฟที่มีคลื่นแสงยาว และมีอุปกรณ์ครอบหลอดไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้แสงไฟส่องไปทางทะเล 

    

โคโค่แลมป์ผลิตจากเส้นใยมะพร้าวที่ได้จากชุมชน โดยมียางพาราเป็นตัวเชื่อมประสานและเคลือบด้วยซิลิกาจากแกลบข้าว ซึ่งยางพารามีคุณสมบัติในการเคลือบเส้นใยและยึดติดเส้นใย ทำให้วัสดุมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และทนทานต่อน้ำ ส่วนซิลิกาจากแกลบข้าวช่วยป้องกันน้ำ ฝุ่นละออง และคราบสกปรก โคโค่แลมป์จึงมีความคงทน ติดตั้งง่าย ใช้งานได้ในทุกสภาพแวดล้อม ราคาไม่แพง และที่สำคัญย่อยสลายได้ในธรรมชาติและสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนอีกด้วย


การใช้งานโคโค่แลมป์

โคโค่แลมป์ สามารถติดตั้งและใช้งานด้วยการนำอุปกรณ์ไปครอบหลอดไฟบริเวณชายหาด ที่มีการใช้ไฟฟ้าในตอนกลางคืนและมีรายงานการพบเต่าทะเลมาวางไข่ โคโค่แลมป์ก็จะช่วยเบนทิศทางของแสงไฟไม่ให้สาดหรือส่องไปทางทะเล ซึ่งทีมนิสิตตั้งเป้าไว้ว่าโคโค่แลมป์จะช่วยปรับสภาพแวดล้อมบริเวณชายหาดเหมาะสมกับการวางไข่และฟักตัวของเต่าทะเล และยังจะช่วยให้ลูกเต่าที่ฟักออกจากไข่คลานลงทะเลได้อย่างปลอดภัย


และนอกจากอุปกรณ์ครอบหลอดไฟแล้ว โคโค่แลมป์ยังมีการใช้ Line Chatbot เพื่อช่วยรวบรวมข้อมูลและประเมินผลการใช้งานของอุปกรณ์ภายหลังการติดตั้งและใช้งานจริง โดยผู้ใช้งานสามารถส่งข้อมูลและรายงานผลการติดตั้งและประสิทธิภาพของโคโค่แลมป์ผ่านทาง Line Chatbot ซึ่งจะทำให้มีการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อวิเคราะห์ผลการใช้งาน นอกจากนี้ Chatbot ยังสามารถให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับการติดตั้งและการดูแลรักษาโคโค่แลมป์อีกด้วย

สถานะการพัฒนาโคโค่แลมป์

ปัจจุบัน ทีม Turtle Rangers กำลังพัฒนาและทดสอบประสิทธิภาพของ “โคโค่แลมป์” ในห้องทดลอง ก่อนที่จะผลิตอุปกรณ์เพื่อนำไปติดตั้งในพื้นที่จริง ที่ได้สำรวจไว้แล้วเพื่อประเมินผลการใช้งาน และมีแผนที่จะพัฒนาโคโค่แลมป์สู่การดำเนินธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมต่อไป 


นางสาวมนพันทธ์กล่าวว่า “พวกเราเชื่อว่าการติดตั้งและใช้นวัตกรรมนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงที่จะช่วยกระตุ้นจิตสำนึกการอนุรักษ์เต่าทะเลที่อยู่ในภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่เกี่ยวข้องกับเต่าทะเล ซึ่งสามารถสร้างรายได้มากกว่าการล่าเต่าเพื่อเป็นอาหารและเครื่องประดับถึง 7 เท่า เป็นการรักษาสมดุลระหว่างการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน”  




ข้อมูล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, Pexels

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง