รีเซต

นายกฯ สั่งทหารเรือ เบรกซื้อ 'เรือดำน้ำ' โจ้ ชี้พิรุธหนังสือ 'บิ๊กลือ' ลงนาม

นายกฯ สั่งทหารเรือ เบรกซื้อ 'เรือดำน้ำ' โจ้ ชี้พิรุธหนังสือ 'บิ๊กลือ' ลงนาม
มติชน
19 กรกฎาคม 2564 ( 07:59 )
119
นายกฯ สั่งทหารเรือ เบรกซื้อ 'เรือดำน้ำ' โจ้ ชี้พิรุธหนังสือ 'บิ๊กลือ' ลงนาม

 

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม (กห.) กล่าวถึงกรณีการจัดหาเรือดำน้ำของกองทัพเรือเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ความจริงเรื่องนี้ กระทรวงกลาโหม ได้หารือร่วมกันอย่างต่อเนื่องถึง เหตุผลความจำเป็นของการเสริมสร้างกำลังทางทะเลรับมือกับสภาพแวดล้อมภัยความมั่นคง โดยเฉพาะมิติใต้น้ำที่เรามีความสามารถจำกัด เพื่อรักษาดุลภาพความมั่นคงและผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลที่มีมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี

 

 

อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์วิกฤตจากการแพร่ระบาดของโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ปี 63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ให้กระทรวงกลาโหมและกองทัพเรือไปพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการชะลอโครงการจัดหาเรือดำน้ำ หรือยืดเวลาออกไปก่อน โดยกระทรวงกลาโหมได้เห็นถึงปัญหาภาระงบประมาณและความจำเป็นเร่งด่วนในการบริหารจัดการงบประมาณของประเทศ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติและประชาชนภาพรวมในสถานการณ์ปัจจุบัน

 

 

“ในปี 63 และ ปี 64 ที่ผ่านมา กองทัพเรือได้ส่งคืนงบประมาณ 3,375 ล้านบาท และ 3,425 ล้านบาท เพื่อให้รัฐบาลสามารถบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดในภาพรวม ตามความจำเป็นเร่งด่วน สำหรับในปี 65 กระทรวงกลาโหม ได้ประเมินร่วมกันแล้วว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคยังคงอยู่และมีผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้สั่งการไปแล้ว ให้กระทรวงกลาโหมโดย กองทัพเรือพิจารณาถอนแผนงานงบประมาณโครงการเรือดำน้ำออกไปก่อน โดยให้หารือกับกห.จีน ถึงเหตุผลความจำเป็น ต้องขอชะลอโครงการในปีนี้ออกไปจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”

 

 

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า โครงการจัดหาเรือดำน้ำของกองทัพเรือเป็นโครงการตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล (G to G) กระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศร่วมมือกันโดยตรงตามข้อตกลงและโปร่งใส ไม่ผ่านคนกลางหรือบริษัทนายหน้าอื่นใด ที่ผ่านมากองทัพเรือติดต่อตรงกับ กระทรวงกลาโหม และกองทัพเรือจีน ผ่านช่องทางทางการทูตเท่านั้น จึงขอให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับสังคม ไม่อยากให้มีการแสวงประโยชน์จากกลุ่มใดๆ หรือการใช้ประโยชน์ทางการเมือง อาจเกินเลยไปกระทบความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้

 

 

วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม แถลงข่าวกรณีกองทัพเดินหน้าซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ ในปีงบประมาณ 65

 

 

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ตนมีหนังสือจาก พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ไปถึงนายสู จ้าน ปิน รองประธานองค์กรบริหารงานของรัฐด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมเพื่อการป้องการประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในหนังสือมีพิรุธคือ หนังสืออกจากกองทัพเรือวันที่ 24 กันยายน 2563 เร่งรัดให้มีการลงนามในสัญญาการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 ให้ทันในปีงบประมาณ 63 หรือภายในเดือนกันยายนปี 63

 

 

โดยระบุอีกว่า หากดำเนินการไม่ทันสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยอาจจะทำให้ต้องเริ่มต้นจัดหากันใหม่ นอกจากนี้ ในหนังสือยังระบุอีกว่า หากประเทศจีนไม่สามารถส่งผู้แทนมาลงนามในสัญญาได้ ก็ขอให้ผู้แทนจากสถานเอกอัคราชทูตจีนในประเทศไทยมาลงนามในข้อตกลงดังกล่าวแทน

 

 

“นี่คือข้อพิรุธว่า การซื้อขายเที่ยวนี้ ถ้าบอกว่าเป็นการซื้อขายแบบจีทูจีจริง พล.ร.อ.ลือชัยออกหนังสือไปวันที่ 24 กันยายน 63 จะให้ทางจีนมาเซ็นต์ก่อนวันที่ 30 กันยายน 63 หรือก่อน พล.ร.อ.ลือชัยจะเกษียณ ด้วยสถานการณ์โควิด จะเดินทางเข้าประเทศได้ต้องมีการกักตัวจึงบอกว่า ถ้าทางจีนมาไม่ได้ ก็ขอให้เอาคนจากสถานทูตจีนในประเทศไทยก็ได้ นี่คือข้อพิรุธ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง