ERW เน้นรักษาสภาพคล่อง ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ช่วยหนุน

ทันหุ้น – ERW ครึ่งปีหลังยังต้องติดตามโควิด-19 อย่างใกล้ชิด เน้นรักษาสภาพคล่องพร้อมรักษาสถานะการเงิน เพื่อรอการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ขณะที่โรงแรม HOP INN ทั้งในประเทศไทย และประเทศฟิลิปปินส์เริ่มกลับมาก่อสร้างอีกครั้ง เดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ ชี้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์หนุนอัตราการเข้าพักดีขึ้น
นางสาววรมน อิงคตานุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ และ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังก็ยังขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ว่าจะควบคุมการแพร่ระบาดได้หรือไม่ซึ่งอยู่ที่การกระจายวัคซีน โดยจำนวนผู้ที่ฉีดวัคซีนทั่วโลกปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 30% ส่วนในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 24% ซึ่งก็จะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อทิศทางอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในครึ่งปีหลังนี้ และในปี 2565 บริษัทประเมินว่าการเติบโตในปี 2564 จะมาจากตลาดในประเทศเป็นหลัก ส่วนตลาดต่างประเทศคงจะเริ่มมีการผ่อนคลายมากขึ้น แต่คงยังไม่สามารถไม่กลับไปเหมือนก่อนเกิดสถานการณ์ โควิด-19
ขณะที่โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ที่เริ่มดำเนินงานมาก่อนหน้านี้ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ บริษัทมองว่าอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ของทั้ง 3 โรงแรมของบริษัทในจังหวัดภูเก็ตมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาพักจะมาจาก สหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส เเละไทย
เน้นรักษาสภาพคล่อง
ปัจจุบันบริษัทเน้นรักษาสภาพคล่อง ลดต้นทุน เพื่อรักษาสถานะการเงินให้มีความแข็งแกร่ง และยังได้เตรียมแผนระยะสั้นเพื่อฟื้นฟูธุรกิจโดยการปรับโมเดลให้ตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เช่น การขายแพ็คเกจผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ เป็นต้น และอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมตลอดเวลา เพื่อรอการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง ส่วนแผนการลงทุนระยะยาวบริษัทจะให้ความสำคัญกับการลงทุนในแบรนด์ HOP INN ซึ่งอยู่ระหว่างขยายงานให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้
สำหรับงบลงทุนในปีนี้บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 700 ล้านบาท ซึ่งอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนเม็ดเงินลงทุนตามความเหมาะสม โดยปัจจุบันบริษัทยังให้ความสำคัญกับการขยายการในโรงแรม HOP INN ทั้งในประเทศไทย และประเทศฟิลิปปินส์ ตามแผนยุทธศาสตร์การเติบโตของบริษัท ซึ่งปัจจุบันกลับมาก่อสร้างเเล้วจำนวน 7 โครงการในไทย ซึ่งอาจจะมีการล่าช้าบ้างเนื่องจากต้องอยู่ในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ของทางภาครัฐบาล สำหรับในประเทศฟิลิปปินส์ก็ได้กลับมาดำเนินการก่อสร้างเเล้ว 3 โครงการ ตามแผน
สถานะการเงินแกร่ง
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS ระบุถึง ERW ว่าหลังปรับโครงสร้างทุนเสร็จสิ้นในไตรมาสที่ 2/2564 สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง คาดการณ์การขาดทุน 3 ปีซ้อนใน 2563-2565ดังนั้นการขาดทุนในระยะกลางหรือปิดเมืองใดๆ จะไม่ส่งผลต่อประมาณการในระยะสั้น
คำแนะนำพื้นฐาน คาด downside ของราคาหุ้นจำกัดมากแล้ว เนื่องจากราคาหุ้นซื้อขายที่ใกล้เคียงมูลค่าทดแทนกรณีฐานที่คำนวณได้ 2.63 บาทต่อหุ้น ณ สิ้น ไตรมาสที่ 2/2564 ที่สำคัญคือ 1) ราคาหุ้นปรับลดลงแรงถึง 22% หลังทำจุดสูงสุดที่ 3.44 บาท ก่อน XR เมื่อ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา และ 2) สถานะทางการเงินที่ดีขึ้น-อัตราหนี้น้อยลงอย่างมีนัย ทำให้ ERW จะรอดไปยามเปิดประเทศไทย ฝ่ายวิเคราะห์กำลังอยู่ระหว่างการปรับราคาเป้าหมายเป็นสิ้นปี 2565 คำแนะนำแบบอย่างไม่เป็นทางการ ‘ห้ามขาย’