รีเซต

ปภ. แจ้งเตือน 27 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่ม ถึง 3 พ.ย. 68

ปภ. แจ้งเตือน 27 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่ม ถึง 3 พ.ย. 68
TNN ช่อง16
29 ตุลาคม 2568 ( 13:43 )
15

ปภ. แจ้งเตือน 27 จังหวัด

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) มีประกาศฉบับที่ 27/2568 เรื่องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยระบุว่าจากการติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่า จะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ โดยมีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ในช่วงระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2568 แยกเป็น

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังเป็นประจำ เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน 

ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (เขตคลองเตย เขตดินแดง เขตบางกะปิ เขตบางนา เขตประเวศ เขตพระโขนง เขตลาดกระบัง เขตวังทองหลาง เขตสวนหลวง และ เขตห้วยขวาง) และจังหวัดสมุทรปราการ (อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอบางบ่อ อำเภอบางพลี และอำเภอบางเสาธง)

พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง ดังนี้

-ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภอดอยเต่า) จังหวัดกำแพงเพชร (อำเภอเมืองกำแพงเพชร อำเภอขาณุวรลักษบุรี อำเภอคลองขลุง อำเภอคลองลาน อำเภอโกสัมพีนคร อำเภอปางศิลาทอง และอำเภอพรานกระต่าย) จังหวัดตาก (อำเภอเมืองตาก อำเภอพบพระ อำเภอวังเจ้า อำเภอสามเงา และอำเภออุ้มผาง) จังหวัดนครุสวรรค์ (อำเภอโกรกพระ อำเภอแม่เปิน อำเภอแม่วงก์ และอำเภอลาดยาว) จังหวัดเพชรบูรณ์ (อำเภอหล่มเก่า) จังหวัดอุทัยธานี (อำเภอทัพทัน อำเภอบ้านไร่ อำเภอลานสัก อำเภอสว่างอารมณ์ และอำเภอห้วยคต)

-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ (อำเภอเกษตรสมุบูรณ์) จังหวัดนครราชสีมา (อำเภอด่านขุนทด อำเภอปากช่อง อำเภอวังนำเขียว อำเภอสูงเนิน และอำเภอเสิงสาง) จังหวัดบุรีรัมย์ (อำเภอโนนดินแดง) จังหวัดสุรินทร์ (อำเภอปราสาท)

-ภาคกลาง 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอทองผาภูมิ อำเภอไทรโยค อำเภอบ่อพลอย อำเภอพนมทวน อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอสังขละบุรี อำเภอหนองปรือ และอำเภอห้วยกระเจา) จังหวัดราชบุรี (อำเภอปากท่อ และอำเภอสวนผึ้ง) จังหวัดปราจีนบุรี (อำเภอกบินทร์บุรี) จังหวัดสระแก้ว (อำเภอเมืองสระแก้ว อำเภอคลองหาด อำเภอตาพระยา อำเภอวังน้ำเย็น อำเภอวังสมบูรณ์ อำเภอวัฒนานคร และอำเภออรัญประเทศ) จังหวัดฉะเชิงเทรา (อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอท่าตะเกียบ และอำเภอบางปะกง) จังหวัดชลบุรี (อำเภอเมืองชลบุรี อำเภอเกาะสีชัง อำเภอบางละมุง อำเภอศรีราชา และอำเภอสัตหีบ) จังหวัดระยอง (อำเภอเมืองระยอง และอำเภอแกลง) จังหวัดจันทบุรี (ทุกอำเภอ) จังหวัดตราต (ทุกอำเภอ) จังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน และอำเภอหนองหญ้าปล้อง) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอบางสะพาน และอำเภอหัวหิน)

- ภาคใต้ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง อำเภอกะเปอร์ และอำเภอละอุ่น) จังหวัดชุมพร (อำเภอเมืองชุมพร อำเภอท่าแซะ อำเภอปะทิว และอำเภอสวี) จังหวัดภูเก็ต (ทุกอำเภอ) จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอบ้านนาสาร อำเภอชัยบุรี อำเภอบ้านนาเดิม และอำเภอเวียงสระ) จังหวัดนศรศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอท่าศาลา และอำเภอทุ่งใหญ่)

-พื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุเก็บกัก

บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ กำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ อุทัยธานี ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด กาญจนบุรี ราชบุรี ระนอง ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ ส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ

-พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ 

บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ได้แก่ คลองชุมพร แม่น้ำหลังสวน และแม่น้ำตาปี กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งเตือน 27 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ โดยได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที 

โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ใน 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง เพื่อลดผลกระทบจากเหตุอุทกภัยให้ได้มากที่สุด พร้อมกันนี้ให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัย และพร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีหากเกิดสถานการณ์ขึ้น ตลอด 24 ชั่วโมง และขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด

สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ในระยะนี้ขอให้ติดตามสภาพอากาศ ประกาศการแจ้งเตือนภัย สถานการณ์น้ำในพื้นที่ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน "THAI DISASTER ALERT" ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ ทั้งระบบ IOS และ Android และหากความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ "ปภ.รับแจ้งเหตุ1784" โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง