เผย 10จว.ป่วยโควิดปอดอักเสบสูงสุด แนะเข้มระดับ4 หลังเกินพันรายอีก
ศบค. รายงาน โควิดวันนี้ ป่วยใหม่เพิ่มกว่า 2.3 หมื่น เข้าข่าย ATK ทะลุ 4.2หมื่น เผย 10 จังหวัดพบผู้ป่วยอักเสบสูงสุด ระบุ จ่อรวมศูนย์คอนเซ็นเตอร์ช่วยรับสาย
วันที่ 3 มี.ค.2565 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค เป็นตัวแทน ศบค.แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า สำหรับการติดเชื้อรายใหม่ของประเทศไทยวันนี้อยู่ที่ 23,618 ราย ส่วน ATK รายงาน 42,138 ราย รวม 65,756 ราย เป็นปอดอักเสบ 1,131 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 325 ราย กำลังรักษารวม 223,414 ราย จำนวนนี้อยู่ใน รพ. 79,412 ราย พบว่า มีอาการน้อย 98.5%
พญ.สุมนี กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีเบอร์สายด่วน 1330 ที่มีการติดต่อเข้ามาจำนวนมาก จึงเพิ่มหลายหน่วยงานมาช่วยรับสาย ทั้งทหาร จิตอาสา ภาคประชาสังคม นอกจากนี้ ยังมีช่องทางลงทะเบียนอื่นทั้ง ไลน์ @nhso ทั้งนี้ มีการหารือว่าจะรวมศูนย์คอลเซ็นเตอร์ของหน่วยงานต่าง ๆ มาช่วยเพิ่มเติมรับโทรศัพท์ ส่วนคนที่ผลเป็นบวก มีอาการรุนแรงสีแดงโทร 1669 ได้ทันที
สำหรับสถานการณ์ติดเชื้ออยู่ในแนวโน้มขาขึ้น หากคงแนวโน้มที่ปฏิบัติอยู่ปัจจุบัน อยู่ห่าง ล้างมือ ใส่หน้ากาก ไม่ไปที่แออัด ทำตาม COVID Free Setting จะเป็นไปตามเส้นสีเหลือง ประมาณ 4-5 หมื่นรายต่อวัน แต่หากผ่อนคลายมากขึ้น ย่อหย่อนมาตรการ ติดเชื้อจะเป็นไปตามเส้นสีแดงได้ ขึ้นไปสูงสุดช่วงกลาง เม.ย.นี้อาจเพิ่มมากกว่านี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนเข้มมาตรการ แต่หากจะดีคือต้องเข้มขึ้นจนเป็นเส้นสีเขียว ไม่เกิน 2 หมื่นคน โดยการระบาดระลอกนี้คาดว่าผู้ติดเชื้อจะค่อย ๆ ลดลงต่ำสุดในช่วงปลาย พ.ค.
การระบาดระลอก ม.ค.เป็นโอมิครอน ปอดอักเสบน้อยกว่าระลอกที่ผ่านมา ซึ่งการระบาดของเดลตาเฉลี่ย 5 พันรายต่อวัน ช่วงนี้โอมิครอนปอดอักเสบประมาณ 625 รายต่อวัน ถือว่าน้อยกว่ามาก ซึ่งเมื่อวันที่ 2 มี.ค. แตะหลักพันวันแรก วันนี้วันที่สอง เราคาดการณ์ว่าหากเข้มมาตรการปัจจุบัน ปอดอักเสบจะมากสุดช่วงต้น พ.ค. หลังสงกรานต์ 2 สัปดาห์ ต้องเคร่งครัดมาตรการต่าง ๆ ตามมาตรการเตือนภัยระดับ 4 งดรวมกลุ่ม ทำงานที่บ้าน ชะลอการเดินทาง มาฉีดวัคซีนมากขึ้น ป่วยปอดอักเสบจะไม่เกิน 2 พันรายต่อวัน ระบบสาธารณสุขจะรองรับได้ การเตือนระดับ 4 เป็นการขอความร่วมมือ เพื่อไม่ให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากและรุนแรงมากขึ้น
สำหรับ 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด คือ 1.กทม. 2,779 ราย 2.ชลบุรี 1,217 ราย 3.นครศรีธรรมราช 959 ราย 4.สมุทรปราการ 953 ราย 5.ระยอง 754 ราย 6.นนทบุรี 739 ราย 7.สมุทรสาคร 704 ราย 8.ภูเก็ต 649 ราย 9.ราชบุรี 570 ราย และ 10.บุรีรัมย์ 548 ราย
พญ.สุมนี กล่าวอีกว่า หากแบ่งตามคลัสเตอร์พบว่าเริ่มมีจำนวนน้อยลง จึงจะรายงานเฉพาะคลัสเตอร์สูง ๆ ที่พบมากสุด คือ สถานพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ คือ กทม. 85 ราย ชลบุรี 26 ราย สมุทรปราการ 18 ราย นราธิวาส 15 รา ย ปทุมธานี 14 ราย บึงกาฬ ปัตตานี จังหวัดละ 11 ราย นนทบุรี ฉะเชิงเทรา ร้อยเอ็ด จังหวัดละ 9 ราย,
โรงเรียนสถานศึกษา, ตลาด ส่วนการติดเชื้อในคลัสเตอร์ที่พบน้อยลง 3 คลัสเตอร์ คือ สถานประกอบการโรงงานมี 4 จังหวัด, พิธีกรรมและศาสนา เจองานศพ 2 จังหวัด และงานแต่ง 1 จังหวัด และร้านอาหารพบ 2 จังหวัด บึงกาฬและขอนแก่น
10 จังหวัดที่มีผู้ป่วยปอดอักเสบสูงสุด คือ 1.กทม. 178 ราย 2.สมุทปราการ 88 ราย 3.บุรีรัมย์ 63 ราย 4.นนทบุรี 62 ราย 5.ภูเก็ต 55 ราย 6.กาญจนบุรี 35 ราย 7.สุราษฎร์ธานี 35 ราย 8.นครศรีธรรมราช 34 ราย 9.นครราชสีมา 33 ราย และ 10.ชลบุรี 33 ราย โดยอัตราครองเตียงระดับ 2-3 ยังไม่สูงเกิน 50% ยกเว้นภูเก็ต 62.7% ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากอาการไม่มากแต่ไปใช้บริการ ส่วนภาพประเทศการครองเตียง 58.1% โดยเตียงสีเหลืองสีแดงยังอยู่ที่ประมาณ 14-22% ดังนั้น ขอให้สีเขียวมีอาการน้อยไม่มีอาการเข้าระบบ HI
สำหรับผู้เสียชีวิตมี 49 ราย คนไทย 47 ราย เมียนมา 2 ราย อายุกลาง 76 ปี อายุ 60 ปีขึ้นไปและโรคประจำตัว 96% พบว่า 67% ไม่ได้รับวัควีนหรือรับไม่ครบโดส 27% รับ 2 เข็มเกิน 3 เดือน อีกรายรับ 3 เข็ม และ 2 รายครบ 2 เข็มไม่เกิน 3 เดือน กรมควบคุมโรควิเคราะห์ผู้เสียชีวิตโอมิครอน พบว่า ส่วนใหญ่ 60% ไม่มีประวัติรับวัคซีน ดังนั้น จะเน้นฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในผู้สูงอายุ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในช่วงสงกรานต์นี้