เรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าไฮโดรฟอยล์ คว้าดีลใหญ่ในสหรัฐฯ ชูจุดเด่นลดต้นทุน 90%

อาร์ทิมิส เทคโนโลยีส์ (Artemis Technologies) บริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีการเดินเรือที่เน้นลดการปล่อยมลพิษจากเมืองเบลฟาสต์ (Belfast) ในสหราชอาณาจักร บรรลุข้อตกลงครั้งสำคัญในสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding – MoU) มูลค่าหลายล้านดอลลาร์กับ เดลต้า มารีน (Delta marine) ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา อันเป็นที่ตั้งของกองเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เพื่อเป้าหมายร่วมมือในการขับเคลื่อนโซลูชันการเดินเรือที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

โดยความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการขยายฐานธุรกิจของบริษัท อาร์เทมิส เทคโนโลยีส์ เข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ อย่างเป็นรูปธรรม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศความร่วมมือในการจัดหาเรือไฮโดรฟอยล์ล้ำสมัยจำนวน 20 ลำ ให้กับบริษัท เออร์เบินลิงค์ (Urbanlink) ผู้บุกเบิกด้านการขนส่งในรัฐไมอามี สหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ ในปี 2024 บริษัทฯ ยังได้เปิดสำนักงานแห่งใหม่ในบรูคลิน เพื่อเสริมสร้างความมุ่งมั่นต่อตลาดอเมริกาเหนือ อาร์เทมิส เทคโนโลยีส์ เป็นที่รู้จักจากการออกแบบและพัฒนาเรือหลากหลายประเภท ไม่เพียงแต่เรือโดยสารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรือปฏิบัติงาน เรือสนับสนุนกังหันลมนอกชายฝั่ง เรือนำร่อง และยานพาหนะสำหรับระบบขนส่งอัจฉริยะ 

โดยเทคโนโลยีเรือไฮโดรฟอยล์แบบไร้มลพิษของบริษัทฯ เป็นจุดเด่นสำคัญ ซึ่งช่วยให้เรือสามารถยกตัวขึ้นเหนือน้ำ ลดแรงต้าน และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานได้มากถึง 90% เมื่อเทียบกับเรือทั่วไป แม้ว่าจะมีต้นทุนเริ่มต้นที่สูงกว่า แต่เรือเหล่านี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่าเรือที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลอย่างมาก อีกทั้งยังสร้างคลื่นที่น้อยกว่าอันเป็นผลมาจากแรงต้านที่ลดลง

ตัวอย่างเทคโนโลยีเรือไฮโดรฟอยล์ที่เป็นผลงานโดดเด่นของบริษัท เช่น เรือ Artemis EF-12 Escape เรือโดยสารหรูหราที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% เรือลำนี้ใช้เทคโนโลยีไฮโดรฟอยล์ (Hydrofoil) ที่ช่วยให้เรือลอยเหนือผิวน้ำขณะแล่น เพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการเดินทาง พร้อมทั้งลดการสร้างคลื่นและมลพิษทางเสียง เรือมีความยาว 12 เมตร รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 12 คน พร้อมลูกเรือ 2 คน ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 30 นอต หรือประมาณ 55.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีระยะทางการแล่นในโหมดไฮโดรฟอยล์ได้ถึง 52 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 96 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

เทคโนโลยีที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ อาร์เทมิส เทคโนโลยีส์ ยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการเดินทางของเรืออย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับเรือโดยสาร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้พัฒนาความสามารถในการควบคุมการเคลื่อนไหวของแผ่นปรับใต้ท้องเรือโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้การเดินทางมีความราบรื่นยิ่งขึ้น

โดยอ้างอิงจากสำนักข่าว Electrek อ้างว่าเรือลำนี้มีศักยภาพที่เหนือกว่าเรือแท็กซี่น้ำปัจจุบันในมหานครนิวยอร์ก ทั้งในด้านระยะทาง ความจุ และความเร็ว รวมถึงความสะดวกสบายและความเสถียรที่สัมผัสได้ อย่างไรก็ตาม เทศบาลนครอย่างมหานครนิวยอร์ก อาจยังไม่พร้อมที่จะลงทุนในเรือประเภทนี้ในเร็ววัน เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณและการมีอยู่ของระบบขนส่งทางรางที่ทรุดโทรม แต่เชื่อมั่นว่าอนาคตของการเปลี่ยนเรือโดยสารให้เป็นระบบไฟฟ้ากำลังก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเอกชน

การขยายธุรกิจสู่สหรัฐฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ อาร์เทมิส เทคโนโลยีส์ ในการนำเสนอเทคโนโลยีการเดินเรือที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีประสิทธิภาพสูง สู่ตลาดที่มีศักยภาพ โดยความร่วมมือกับ เดลต้า มารีน จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาโซลูชันการเดินเรือสะอาดในสหรัฐฯ ต่อไป