รีเซต

นายกฯสั่งด่วนทุกส่วนราชการต้องเร่งจัดการฝุ่น PM 2.5

นายกฯสั่งด่วนทุกส่วนราชการต้องเร่งจัดการฝุ่น PM 2.5
TNN ช่อง16
7 มกราคม 2568 ( 12:09 )
11

นายจิรายุ ห่วงงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการเร่งด่วนในที่ประชุม ครม. คือ เรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5  โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า  ขณะนี้เข้าสู่ฤดูกาลที่ปัญหา PM 2.5 เริ่มรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะ การรับซื้ออ้อยที่ถูกเผาในหลายพื้นที่ ในขณะที่ภาพถ่ายดาวเทียมก็เริ่มเห็น Hotspot เพิ่มมากขึ้นในบางจังหวัด  โดยขอให้ในที่ประชุม ครม.วันนี้หารือในประเด็นนี้ และขอมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆไปดำเนินการในการป้องกัน กวดขัน จับกุมอย่างเข้มงวด โดยมีเป้าหมายต้องลดให้ได้มากกว่าปีที่ผ่านมา


 ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี  มีข้อสั่งการ ในเรื่องแต่ละกระทรวงโดยเฉพาะมาตรการเกี่ยวกับพืชผลทางการเกษตรที่ มีการเผา นายกฯได้สั่งการให้ ก.อุตสาหกรรม เร่งกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ประกอบการงดการรับซื้ออ้อยไฟไหม้ และสั่งการให้ ให้ ก.ทรัพยากรฯ ร่วมกับ สนง.ตำรวจแห่งชาติบังคับใช้กฎหมายส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวดกับผู้เผาป่า เผาตอซังข้าว  ข้าวโพด  อ้อย และพืชอื่น ๆ รวมทั้งประกาศกำหนดเขตควบคุมมลพิษ โดยร่วมมือกับภาคประชาสังคมในการดำเนินการดังกล่าว

            - และให้ ก.พาณิชย์ ร่วมกับ ก.เกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรกาห้ามนำเข้าอ้อยไฟไหม้ รวมทั้งพืชเกษตรอื่น ๆ ที่ผ่านการเผา

            -ให้ ก.กลาโหม ขอให้หน่วยงานความมั่นคง  และ กรมศุลกากร ตรวจสอบการลักลอบการนำเข้าพืชที่ผ่านการเผาทุกชนิด ตามแนวชายแดนต่างๆอย่างเข้มงวด

                จากนั้น นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการ ส่วนราชการอื่นๆที่จะสามารถลด ค่า PM 2.5 ในภาคอื่น ๆได้

            - ให้ ก.คมนาคม และ สตช.ตรวจสอบและห้ามใช้ยานพาหนะที่ปล่อยควันดำเกินมาตรฐานอย่างจริงจัง โดยเฉพาะรถ pickup  รถโดยสาร  รถบรรทุกขนาดใหญ่ ที่ปล่อยควันดำรวมทั้งรถขนส่งมวลชนของ ขสมก. และรถร่วมบริการเส้นทางต่างๆ ที่อยู่ในความดูแลของรัฐ

            - ให้ ก.มหาดไทยกำชับ กทม. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ให้ควบคุมการก่อสร้างในเขตพื้นที่รับผิดชอบ รวมทั้งกำหนดมมาตรการป้องกันการปล่อย PM2.5 จาก site งานก่อสร้างรวมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ให้กับผู้ประกอบการซึ่งฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือมาตรการดังกล่าว อย่างจริงจัง 

         - ให้ ก.มหาดไทย (กรมโยธาฯ) กำหนดแนวทำงป้องกันมิให้เกิดการปล่อย PM2.5 ในโครงการก่อสร้างของรัฐ เพื่อให้ทุกหน่วยงานของรัฐนำไปกำหนดใน TORของการจ้างก่อสร้างต่อไป เพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว

         - ให้ ก.ดิจิทัลฯ ร่วมกับ ก.อุดมศึกษา และ ก.ทรัพยากรฯ พัฒนำ platformฐานข้อมูลกลางเกี่ยวกับ hotspot และ ventilation โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม หรือ low cost sensors เพื่อให้หน่วยงานต่ๆาง นำไปใช้ในการแก้ปัญหาการฟุ้งกระจายของ PM2.5 อย่างบูรณาการ

           - ให้ ก.ต่างประเทศ หำรือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อร่วมมือและให้ความช่วยเหลือในการลดปัญหาฝุ่นควันข้ำมพรมแดน

           นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังมีข้อสั่งการต่อไปว่า ในด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

ให้ ก.มหาดไทย กำชับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  ผู้ว่าราชการจังหวัด  และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเตรียมการป้องกันกรณีที่มีการลักลอบเผาและเกิดไฟไหม้ลุกลามในวงกว้างและเป็นต้นเหตุของ PM2.5

              ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ขอให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบกฎหมายในความรับผิดชอบและเสนอ ต่อ ครม. เพิ่มเติมภายในเดือนมกราคมนี้ ว่าในแต่ละกระทรวงจะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติม หรือใช้กฎหมายที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา PM2.5 อย่างยั่งยืนได้อย่างไรบ้าง เพื่อทำให้ ประเทศไทยเป็นประเทศอากาศสะอาดในเร็ววันนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง