เกษตรเตรียมก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ 15 แห่ง รับมือท่วม-แล้ง
TNN ช่อง16
25 ธันวาคม 2567 ( 12:23 )
8
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แถลงผลการดำเนินงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี 2567 (มกราคม - ธันวาคม 2567) และแผนงานสำคัญปี 2568 พร้อมส่งมอบของขวัญปีใหม่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มุ่งให้เกษตรกรไทยมีกิน มีใช้ มีรายได้พอเพียง ในงาน 1 ปีจุดพลังเกษตรไทย 2568 ก้าวต่อไปเพื่อเกษตรกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังแถลงว่า จะยังคงสานต่อ 9 นโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ และพร้อมจับมือกับทุกภาคส่วนเกี่ยวข้องขับเคลื่อนภาคเกษตรของประเทศอย่างต่อเนื่อง ด้วยแนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” และดึงจุดเด่นของประเทศไทยเพื่อตอบสนองความต้องการของโลกด้านความมั่นคงทางอาหาร เร่งเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและราคาพืชผลการเกษตร รวมทั้งยกระดับรายได้ของเกษตรกร โดยมีภารกิจสำคัญ ครอบคลุมนโยบายต่างๆ ที่สำคัญของรัฐบาลและของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดย นโยบายเร่งด่วน จะเดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ จัดการหนี้ให้สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร 1,100 ราย และส่งเสริมสนับสนุนการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพ 1,065 องค์กร ส่งเสริมสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีการบริหารจัดการสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพ / และเสริมสร้างรายได้ให้แก่สมาชิก 700 แห่ง ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เช่น พัฒนาพื้นที่ผ่านระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ 3,295 แปลง เพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาสินค้าเกษตร/ อาทิ ผลิตและขยายพืชพันธุ์ดี 3,000,000 ต้น ผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดี 255,070 ตัน ขณะที่ นโยบายระยะกลางและระยะยาว จะเดินหน้า เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ จัดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จัดที่ดินทำกินแก่เกษตรกร 37,000 ราย ปรับปรุงหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร 1,066,643 แปลง เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำโฉนดเพื่อการเกษตรไปต่อยอดให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อสร้างคุณภาพชีวิต ส่วนการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงสหกรณ์ เตรียมยกระดับการบริหารจัดการน้ำ ก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ 15 แห่ง ปริมาตรกักเก็บน้ำเพิ่มขึ้นกว่า 25 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานเพิ่มขึ้น 45,055 ไร่ / การก่อสร้างแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน โดยขุดสระเก็บน้ำประจำไร่นาขนาด 1,260 ลูกบาศก์เมตร จำนวน23,000 บ่อนอกจากนี้ ด้านการอำนวยการบริหารจัดการด้านการเกษตร จะมีการพัฒนาและสร้างระบบประกันภัยให้เกษตรกร ขับเคลื่อนโครงการประกันภัยข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ต่อเนื่อง และเตรียมขยายผลไปยังมันสำปะหลัง ตลอดจนศึกษารูปแบบการประกันภัย เพื่อขยายผลให้ครอบคลุมพืชเศรษฐกิจให้มากขึ้น ควบคุมและตรวจสอบการนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตร