รีเซต

สลดใจ! พบ "โลมาอิรวดีสีชมพู" ติดอวนประมงตายพร้อมลูกในท้อง

สลดใจ! พบ "โลมาอิรวดีสีชมพู" ติดอวนประมงตายพร้อมลูกในท้อง
TNN ช่อง16
20 กันยายน 2563 ( 18:44 )
441

วันนี้( 20 ก.ย.63) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสุธรรม สุรินทร์วรางกูล กรรมการชุมชน หมู่ 2  บ้านอ่างทอง ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า พบซากโลมาไม่ทราบเพศลอยอยู่ในทะเล บริเวณหน้าสถานีตำรวจน้ำเกาะสมุย จึงได้เดินทางไปจรวจสอบ พร้อมกับอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย ที่เกิดเหตุในทะเลพบโลมาลอยอยู่ในทะเเลห่างจากชายฝั่งประมาณ 100 เมตร 

นายสุธรรม กรรมการชุมชน จึงได้นำเรือหางยาวของชาวประมงชายฝั่ง ออกไปพร้อมนำเชือกมัดกับซากโลมา พร้อมชักลากกลับเข้าชายฝั่งเพื่อทำการตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบว่าตามลำตัวของซากโลมา มีอวนในล่อนของชาวประมงติดพันรอบตัวโลมาจนแน่น ทางกรรมการชุมชนและอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย พร้อมชาวบ้านจึงได้ช่วยกันนำมีดมาตัดอวนออกจากซากโลมา พบว่าอวนประมงที่ติดพันรอบโลมาจำนวนมาก 


เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบว่าเป็นโลมาสีชมพู สายพันธุ์อิรวดี เพศเมีย อายุประมาณ 10 ปี ความยาว 1.60 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 100 -120 กิโลกรัมตายมาแล้วปรมะมาณ 4-5 วันสภาพเริ่มเน่าและเป็นที่น่าสลดใจ พบว่าภายในท้องของแม่โลมามีซากลูกโลมาอยู่ด้วย

ด้านนายสุธรรม สุรินทร์วรางกูล กรรมการชุมชน หมู่ 2 ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยความรู้สึกโกรธ เมื่อพบว่าในท้องโลมามีซากลูกน้อย พร้อมกล่าวว่าพวกที่นำอวนประมงไปวางในทะเลทำให้โลมาตายเป็นคนเห็นแก่ตัวไม่เห็นต่อส่วนรวม หากโลมาติดอวนสามารถช่วยชีวิตมันได้ด้วยการตัดอวนทิ้งเพื่อช่วยเหลือแต่นี่กลับปล่อยให้โลมาตายและตัดอวนทิ้งทีหลัง ซึ่งโลมาเป็นสัตว์คุ้มครองและอนุรักษ์ เป็นสัตว์ที่สวยงาม เลี้ยงลูกด้วยนม นักท่องเที่ยวเห็นยังชอบใจเลย ซึ่งอย่างเคสนี้ตนเห็นแล้วสุดสงสารตนเชื่อว่าอวนดังกล่าวน่าจะเป็นอวนถ่วงของชาวประมงจึงอยากจะฝากไปถึงชาวประมงว่า ขอให้ช่วยกันรักษาธรรมชาติและอย่าทำลายกันแบบนี้ ซึ่งหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ในอนาคตลูกหลานจะไม่ได้เห็นโลมา พร้อมฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการ ทำความเข้าใจกับชาวประมงหากปล่อยไว้เเบบนี้ ตนเชื่อว่าในไม่ช้าโลมาชนิดนี้อาจสูญพันธุ์


ขณะที่หน่วยกู้ภัยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ภายในอาทิตย์นี้พบโลมาตายถูกคลื่นซัดลอยมาเกยชายหาดบนเกาะสมุยแล้วถึง 3 ตัว ในส่วนตัวนี้จะนำไปขุดหลุมฝังพร้อมถ่ายภาพและส่งไปให้ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพรมาตรวจสอบต่อไป





เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง