รีเซต

กระทบ 3 หมื่นล้าน แผ่นดินไหว เขย่าเศรษฐกิจไทย

กระทบ 3 หมื่นล้าน แผ่นดินไหว  เขย่าเศรษฐกิจไทย
TNN ช่อง16
9 เมษายน 2568 ( 08:00 )
32

"แผ่นดินไหว" แค่ไม่กี่้นาที แต่กระทบเศรษฐกิจไทยมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท

โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์ 


ย้อนกลับไป วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 เป็นอีกหนึ่งวัน "วิปโยค" ที่คนไทยจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต

หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมา


และส่งผลกระทบมาถึงเมืองไทย โดยเฉพาะ "กรุงเทพมหานคร "เมืองหลวง จุดศูนย์กลางเศรษฐกิจ

ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นได้กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก โดยเฉพาะภาพของ "ตึกที่ถล่ม" ซึ่งเป็นตึกที่กำลังก่อสร้างของ สตง.

ขณะที่ผู้คนต่างก็แตกตื่นวุ่นวาย เนื่องจากเมืองไทยไม่เคยเผชิญเหตุภัยพิบัติ

แผ่นดินไหวร้ายแรงขนาดนี้มาก่อน  ตึกสูงระฟ้าสั่นไหว คนวิ่งหนีจากตึก

รถไฟฟ้าหยุดให้บริการ การจราจรเป็นอัมพาต หลายคนต้องยอมเดินกลับข้ามจังหวัดก็ยังมี

และทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นมี"ราคา" ที่ต้องจ่าย

 

 

หนึ่งในหน่วยงานที่ออกมาประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจจากเหตุ "แผ่นดินไหว" ในครั้งนี้ 

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) โดยประเมินผลกระทบเบื้องต้น

จากเหตุแผ่นดินไหวต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2568 อยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท 


ตัวเลขที่ประเมินรวมจากทุกอย่าง

ทั้งจากแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อาจมีจำนวนลดลง 

จากความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย จากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ 

ส่วนผลกระทบสุทธิต่อเศรษฐกิจอาจจะยังไม่แน่นอน ไม่สามารถตอบได้ทันที ณ วันนี้

เพราะส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับระยะเวลาความเชื่อมั่นจะฟื้นฟูกลับมาได้ 

ทั้งของคนในประเทศเอง ทั้งจากนักท่องเที่ยว และนักลงทุนต่างชาติ


สิ่งที่แรกที่กระทบทันทีหลังจากแผ่นดินไหว คือ ภาคการท่องเที่ยว

เพราะคนแตกตื่นตกใจ พากันยกเลิกห้องพักมากกว่า 1,100 ยอดจอง (Booking)  

และที่ต้องจับตา คือ งานใหญ่สงกรานต์ปีนี้ ว่าจะรับแรงกระแทกอย่างไร 

แต่ในเบื้องต้นคาดว่านักท่องเที่ยวจะหายไปถึง 4 แสนคนในปีนี้ 



การท่องเที่ยวไทย คือ ด่านแรก ที่รับแรงกระแทกหนัก

หลังมีข่าวออกไปทั่วโลกคนก็ช็อค เป็นอาฟเตอร์ช็อค

พากันยกเลิกที่พัก ยกเลิกเดินทางท่องเที่ยวในบ้านเรา

แม้แผ่นดินไหวจะไม่ได้มีจุดศูนย์กลางในไทยก็ตาม


เบื้องต้นนับแค่สองวันแรกทันทีหลังเกิดเหตุ 

ข้อมูลของสมาคมโรงแรมไทย รายงานว่ามีการยกเลิกห้องแล้วประมาณ 1,100 booking ทั่วประเทศ 

ข้อมูลของผู้ประกอบการโรงแรมห้องพักที่ถูกยกเลิก ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ 

ส่วนสมาคมสายการบินประเทศไทย ระบุว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ตัวเลขการจองที่นั่งโดยสารรายวันลดลงเฉลี่ย 40%-60% 

นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนหนึ่งยังเฝ้าระวังสถานการณ์ในไทยอย่างใกล้ชิด 

เนื่องจากรัฐบาลหลายประเทศ ออกประกาศเตือนด้านความปลอดภัยกับพลเมืองที่จะเดินทางมาไทย 

เช่น รัฐบาลของสหราชอาณาจักร สิงคโปร์ และแคนาดา


อย่างไรก็ตาม SCB EIC ประเมินเหตุแผ่นดินไหวจะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวในระยะสั้น 

เบื้องต้นคาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนเม.ย.68 จะลดลงราว -12% MOM 

ซึ่งลดลงมากกว่าการลดลงเฉลี่ยตามฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ในเดือนเมษายน ของช่วงปี 60-62 ซึ่งอยู่ที่ราว -6%MOM 

และจะใช้เวลาฟื้นตัวให้กลับมาเติบโตได้ตามปกติราว 3 เดือน 

ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้มีโอกาสลดลงจากประมาณการเดิมราว 4 แสนคน 

และสูญเสียรายได้จากค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 2.1 หมื่นล้านบาท


แต่จุดนี้ยังมีทางแก้ไขหรือทำให้การฟื้นตัวเร็วขึ้นได้ 

บทวิเคราะห์ของ SCBEIC ชี้ว่าหากภาครัฐเร่งออกมาตรการเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับคืนมาได้เร็ว 

ซึ่งประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติของ SCB EIC ในปีนี้เดิมตั้งเป้าไว้ที่ 38.2 ล้านคน 

จะมีการปรับหลังจากนี้หากสถานการณ์ท่องเที่ยวมีความชัดเจนมากขึ้น


ตึกถล่ม คอนโดร้าว 

เป็นสิ่งที่เราได้เห็นจากข่าว หรือหลายคนก็เจอกับตัวเองเวลานี้

โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นที่พักยอดนิยม

ของคนในเมืองกรุง แม้ตึกที่ถล่มจะยังสร้างไม่เสร็จ 

และเกิดเพียงแค่ตึกเดียวทั้งประเทศ

แต่ความเชื่อมั่นก็ถล่มลงไปพร้อมกันในวันนั้น 



 

ผลกระทบในภาคอสังหาริมทรัพย์

ตลาดคอนโดมิเนียม ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ 

แม้จะไม่ได้เกิดความเสียหายในระดับอาคารถล่ม 

แต่การฟื้นตัวของตลาดฯ ยังขึ้นอยู่กับการกลับมาของความเชื่อมั่นผู้บริโภค 

SCB EIC คาดว่า หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในปี 68 มีแนวโน้มหดตัวลง

ไปอยู่ที่ 8.5 หมื่นหน่วย หดตัว -0.8%YOY ต่ำกว่ามุมมองเดิม ที่คาดว่าจะขยายตัว 2.6%YOY


สาเหตุหลักเพราะ คนที่จะซื้อคอนโดไว้อยู่เอง หรือแม้กระทั่งนักลงทุน

อาจจะชะลอหรือเลื่อนการโอน หรือความคิดที่จะซื้อออกไป

คนที่เช่าอยู่ก็ต้องการย้ายออกจากที่สูงๆ ไปหาบ้านแนวราบ

แต่ถ้าเป็นคนที่อยู่แล้วและผ่อนไปด้วย ก็อาจจะยอมทนฝืนความกลัวอยู่ต่อไป 

 โดยเฉพาะกลุ่มรายได้ปานกลาง-ล่าง เพราะไม่มีกำลังในย้ายหรือซื้อใหม่ 

แต่ก็อาจจะเป็นแง่ดีสำหรับกลุ่มตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ 

เพราะคนที่มีเงินก็อาจจะหนีไปซื้อมากขึ้น หรือลี้ภัย 


นอกจากนี้ SCB EIC ประเมินว่า การเปิดโครงการคอนโดใหม่ๆในปี 68 จะยังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง 

แรงกดดันหลักจากกำลังซื้อกลุ่มรายได้ปานกลาง-ล่าง ที่ยังไม่ฟื้นตัว

และมีข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 

คาดว่าจะทำให้หน่วยเหลือขายสะสมคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ 

และปริมณฑลในปีนี้ ยังอยู่ในระดับสูงราว 74,000 หน่วย


ขณะที่ตลาดรับเหมาก่อสร้าง  ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรง 

การก่อสร้างทั้งของภาครัฐและภาคเอกชนในปี 68 จะยังสามารถทำได้ต่อเนื่อง 

แถมยังได้อานิสงส์จากความต้องการซ่อมแซมตึกและบ้านที่เสียหาย


ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ความเสียหายทางเศรษฐกิจน้อยลง จากบทวิเคราะห์ของ SCB EIC 

คือ ภาครัฐต้องเร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ และเรียกความเชื่อมั่นสาธารณะกลับมา

ผ่านการออกนโยบาย และมาตรการช่วยเหลือต่างๆ เช่น ลูกหนี้ และกระตุ้นการท่องเที่ยว 

โดยเฉพาะสร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยระบบเตือนภัยฉุกเฉิน และตรวจความปลอดภัยตึกโรงแรมที่พัก

ประชาสัมพันธ์เชิงรุก และสื่อสารให้ดัง ให้ชัดเจน 

เพราะความรู้สึกเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่จะเรียกความเชื่อมั่นกลับมา 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง