EA เร่งผลิตรถเมล์ไฟฟ้า ขสมก.เล็งเช่า2,511คัน
ทันหุ้น –สู้โควิด –EA เร่งเครื่องโรงประกอบรถเมล์ไฟฟ้าคาดแล้วเสร็จเดือนธันวาคมนี้ มีกำลังการผลิตราว 5,000-6,000 คัน
พร้อมรับอานิสงส์ ขสมก. เตรียมจัดเช่ารถเมล์ไฟฟ้า 2,511 คัน คาดนำเข้าครม.พิจารณาเดือนตุลาคมนี้ ขณะที่เดินหน้าลุยตลาดรถไฟฟ้าเพื่อระบบสาธารณะ (Public Car) มั่นใจมีความพร้อมเต็มที่ หวังภาครัฐเข้ามาสนับสนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณา รายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เห็นชอบแผนฟื้นฟูตามที่ปลัดกระทรวงคมนาคมเสนอโดยหนึ่งในแผนฟื้นฟู จะมีเรื่องของโครงการจัดเช่ารถเมล์พลังงานไฟฟ้า 2,511 คันนั้น แต่การจัดหารถเช่าต้องมาดูศักยภาพ แต่จากนี้ไป ขสมก.จะไม่ค่อยมีการลงทุนมาก แต่จะเน้นให้ผู้ประกอบการเข้ามารับสัมปทานเรื่องการเดินรถ ซึ่งการลงทุนต่างๆ จะเป็นเรื่องของผู้รับสัมปทาน เพื่อเป็นการลดภาระต่างๆ
โดยหลังจากนี้จะต้องนำเสนอบอร์ด ขสมก. และนำกลับมาพิจารณาในคณะกรรมการชุดนี้อีกครั้ง ก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)คาดว่าจะเสนอได้ภายในเดือนตุลาคมนี้
*พร้อมลุยรถเมล์ไฟฟ้า
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทางเลือก เปิดเผยว่า บริษัทในฐานะผู้ดำเนินการเรื่องของการจัดทำของรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ซึ่งมุ่งเน้นตลาดรถไฟฟ้าเพื่อระบบสาธารณะ (Public Car) เช่น รถแท็กซี่ไฟฟ้า รถเมล์ไฟฟ้า เป็นต้น เปิดเผยว่า สำหรับโครงการจัดเช่ารถเมล์ไฟฟ้าของ ขสมก. บริษัทก็มีความพร้อมในการดำเนินการ โดยโรงประกอบรถเมล์ไฟฟ้าจะเสร็จช่วงเดือนธันวาคม 2563 นี้ มีกำลังการผลิตที่ราว 5,000-6,000 คัน ซึ่งสามารถรองรับการความต้องการของ ขสมก. ได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอติดตามเรื่องของ TOR สำหรับรายละเอียดอีกครั้ง ภายหลังจากครม.อนุมัติดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
“สำหรับโครงการรถเมล์ไฟฟ้าของ ขสมก. บริษัทก็มีความพร้อมในการดำเนินการ แต่บริษัทจะดำเนินการในการขายรถเมล์ไฟฟ้าให้แก่ผู้ที่ได้รับสัมปทาน ซึ่งต้องรอติดตามว่าTOR จะเป็นอย่างไร และมีใครเข้าไปร่วมประมูลสัมปทานบ้าง ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีให้แก่ผู้ได้สัมปทาน เพราะบริษัทมีความพร้อม โรงประกอบใกล้แล้วเสร็จ หากบริษัทได้รับงานดังกล่าวก็จะสนับสนุนผลประกอบการให้เติบโตต่อเนื่อง เพราะหากเข้าครม. อนุมัติเรียบร้อยแล้ว ส่วนต่อมาก็เป็นการเขียน TOR และเปิดให้ร่วมประมูลต่อไป” นายอมร กล่าว
*หวังรัฐหนุนใช้รถยนต์ไฟฟ้า
ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ ยังดำเนินการต่อเนื่อง โดยบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่รถไฟฟ้าเพื่อระบบสาธารณะ เพราะยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ขณะเดียวกันก็ได้มีการเดินหน้าติดตั้งสถานีชาจน์รถยนต์ EV ต่อเนื่อง โดยขณะนี้ติดตั้งได้ไปแล้วประมาณ 600 สถานี คาดว่าจะครบ 1,000 สถานีในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า
อย่างไรก็ดีบริษัทมีความคาดหวังจะให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เช่นการสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี สำหรับบริษัทที่ดำเนินการธุรกิจด้านนี้ ให้สามารถทำธุรกิจแข่งขันกับบริษัทต่างชาติได้ เพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบันบริษัทต่างชาติก็เข้ามามีบทบาท และได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ซึ่งอาจจะส่งผลให้บริษัทไทยไม่สามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ เนื่องจากต้นทุนที่แตกต่างกัน