Fitbit เรียกคืนสมาร์ตวอชรุ่น Ionic พบแบตเตอรี่ร้อนจนไหม้ผิวหนัง
Fitbit บริษัทผู้ผลิตแก็ดเจ็ตสวมใส่เพื่อสุขภาพในเครือ Google ประกาศเรียกคืน Fibit Ionic สมาร์ตวอชที่วางจำหน่ายในปี ค.ศ. 2017-2020 หลังตรวจพบว่าตัวเรือนมีปัญหาด้านความร้อน และอาจทำให้เกิดแผลไหม้บนผิวหนังของผู้สวมใส่ได้
Fitbit Ionic คือ ซีรีส์สมาร์ตวอชที่ Fitbit หมายมั่นให้เป็นคู่แข่งกับ Apple Watch โดยเน้นการออกแบบที่ดูทันสมัยพร้อมด้วยฟีเจอร์ครบครัน ซึ่งมีการวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2017 จนกระทั่งถึงปี 2020 ที่ Google เข้าซื้อกิจการของ Fitbit หลังจากนั้นทางบริษัทจึงมุ่งเน้นการผลิตสมาร์ตวอชเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว
ทว่า ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา Fitbit ได้รับรายงานจากผู้บริโภคกว่า 174 รายว่าแบตเตอรี่ในสมาร์ตวอชรุ่น Ionic มีความร้อนสูงเกินไป และมีอีก 118 รายที่พบว่าเกิดแผลไหม้บนผิวหนัง โดย 2 รายเกิดแผลไหม้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (Second-degree burn) และ 4 รายเกิดแผลไหม้ลึกถึงชั้นไขมัน (Third-degree burn)
เรื่องนี้โฆษกจาก Fitbit กล่าวว่า ความปลอดภัยของผู้บริโภคคือสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แม้จำนวนรายงานจากผู้บริโภคที่พบปัญหาเกี่ยวกับสมาร์ตวอชรุ่นนี้จะมีเพียง 0.01% เมื่อเทียบกับจำนวนที่จำหน่ายไป แต่ทางบริษัทได้ดำเนินเรื่องยื่นไปยังหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคสหรัฐฯ (CPSC) เพื่อประกาศเรียกคืนสมาร์ตวอชรุ่น Iconic ที่วางจำหน่ายไปกว่า 1 ล้านเรือนในสหรัฐฯ และอีก 7 แสนเรือนในประเทศอื่น ๆ แล้ว
A message to our users: Customer safety is always Fitbit’s top priority and out of an abundance of caution, we’ve announced a voluntary recall of Fitbit Ionic smartwatches. Please visit https://t.co/1p0SOTzgQy. Thank you for your continued support. pic.twitter.com/IvVtYs53md
— fitbit (@fitbit) March 2, 2022
ทั้งนี้ ทาง Fitbit ไม่ได้ออกมาให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าความร้อนจากแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นจนผิดปกตินั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่บริษัทยืนยันว่าสมาร์ตวอชและอุปกรณ์สวมใส่อื่น ๆ นั้นไม่มีรายงานความผิดปกติลักษณะนี้เกิดขึ้น ยังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติ
สำหรับผลิตภัณฑ์สมาร์ตวอช Fitbit Ionic ที่พบปัญหานี้ มีรหัสรุ่น FB503 ซึ่งผู้บริโภคสามารถนำเครื่องไปคืนได้ที่ศูนย์และตัวแทนจำหน่ายในประเทศ โดยในสหรัฐอเมริกาเมื่อคืนเครื่องแล้วจะได้รับเงินคืน 299 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 9,730 บาท) และได้รับส่วนลด 40% เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ Fitbit
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Techspot