"โนโรไวรัส" ลามชัยภูมินร.ป่วยกว่า 300 ราย- เร่งสอบสวนโรงน้ำแข็ง
วันนี้ ( 23 ก.พ. 66 )นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ สอบสวนพบสาเหตุนักเรียนและครูป่วย เกิดจากเชื้อโนโรไวรัส ที่มีการปนเปื้อน ในอาหารและน้ำดื่ม
ส่งผลให้เกิดอาการระบบทางเดินอาหาร และระบาดไปยังพื้นที่ข้างเคียงในโรงเรียนมัธยม 4 แห่ง คาดว่าเกิดจากแหล่งผลิตของน้ำเดียวกัน มีการปนเปื้อนเชื้อไวรัส โดยเชื้อไวรัสชนิดนี้ มีในสิ่งแวดล้อม มักพบในน้ำ น้ำแข็ง เครื่องดื่ม สามารถป้องกันได้ด้วยการควบคุมความสะอาดของอาหาร เครื่องดื่ม ตามหลักสุขอนามัย และอาหารต้องปรุงสุก ซึ่งเชื้อโนโรไวรัส จะส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิด อาการ ถ่ายเหลว คลื่นไส้อาเจียน
ซึ่งการรักษาให้ยาตามอาการและให้เกลือแร่เพื่อป้องกันการขาดน้ำ ปัจจุบันยังไม่วัคซีนป้องกัน ดังนั้นจึงต้องเน้นย้ำดูแลเรื่องความสะอาดในการปรุงอาหาร และน้ำดื่ม ขณะนี้สำนักงานควบคุมป้องกันโรคในพื้นที่เข้าไปดูแลแล้ว
ด้านนายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ยังมีนักเรียน 4 คนที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล ผลตรวจยืนยันว่า การป่วยมีทั้งเชื้อโนโรไววัส และแบคทีเรียอีโคไล ล่าสุด ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบโรงงานผลิตน้ำแข็ง 5 แห่งในจังหวัดชัยภูมิแล้ว พบว่ามีการผลิตน้ำแข็งจากน้ำที่แตกต่างกัน ทั้งจากน้ำบาดาล น้ำประปา และน้ำจากแหล่งน้ำผิวดิน จึงได้นำน้ำแข็งไปตรวจสอบมาตรฐานการผลิต
หลังจากนี้ยังจะเก็บตัวอย่างสุ่มตรวจอาหารด้วย เช่น ผักเพราะที่ผ่านมาเคยพบว่ามีเชื้อโนโรไวรัสจากผัก โดยต้องเร่งคุมการระบาดโดยเร็วเพราะเกรงจะเป็นปัญหาอุปสรรคของเด็กนักเรียนที่กำลังอยู่ในช่วงใกล้สอบปลายภาค
ส่วนที่จีนมีการพักการเรียนการสอนของโรงเรียนระดับประถม ในหลายพื้นที่รวมทั้งในมณฑลเจ้อเจียง มหานครเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง และ เมืองเทียนจิน ที่อยู่ติดกัน หลังตรวจพบนักเรียนหลายคนติดเชื้อโควิด-19 และพบโรคระบาดอื่นๆ เช่นไข้หวัดตามฤดูกาล และโนโรไวรัส โดยมีการประกาศพักการเรียนการสอนเมื่อวันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก : ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดชัยภูมิ
ภาพจาก : ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดชัยภูมิ