เปิดประวัติ "ศรีสุวรรณ จรรยา" นักร้องแห่งยุค
นักร้อง ที่ไม่ใช่นักร้อง แต่เป็นนักร้องเรียน ตรวจสอบ นั่นก็คือ "ศรีสุวรรณ จรรยา" หรือ "พี่ศรี ศรีสุวรรณ" โดยก่อนหน้านี้ได้มีกระแสถูกชายคนหนึ่งทำร้ายร่างกาย ด้วยการชกต่อย หลัง "ศรีสุวรรณ จรรยา" เข้าร้องเรียนให้ตรวจสอบโน้ส อุดม หลังจัดเดี่ยวไมโครโฟน-13 "เดี่ยว 13" เข้าข่ายยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิด
และล่าสุด วันนี้ (11 พ.ค.2566) เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้โพสต์กรณี ศรีสุวรรณ จรรยา ถูกทำร้ายร่างกาย โดนชกปากแตก
ประวัติ ศรีสุวรรณ จรรยา
ศรีสุวรรณ จรรยา เป็นคนจังหวัดพิษณุโลก ระดับมัธยมจบการศึกษาจากโรงเรียนวังทองพิทยาคม เคยศึกษา ปวส.ด้านเกษตร ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วิทยาเขตเกษตรพิษณุโลก ส่วนปริญญาตรีจบจากจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้
ศรีสุวรรณ มักทำงานเกี่ยวกับการช่วยเหลือคนอื่นมาตั้งแต่ยังเด็ก โดยมีแรงบันดาลใจมาจากพ่อของตน ที่มักไปขึ้นศาลช่วยเหลือชาวบ้านในสมัยนั้น ทั้ง ๆ ที่จบเพียง ป.4 และเมื่อศรีสุวรรณ เรียนอยู่ในระดับปริญญาตรี ก็ได้เป็นนายกองค์การนักศึกษา ตามรอยพ่อของตน ด้วยการทำกิจกรรมช่วยเหลือผู้อื่น กิจกรรมการเมือง นำประท้วงเรียกร้องสิทธิสวัสดิภาพและความปลอดภัยของนักศึกษาและชาวบ้าน
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊กศรีสุวรรณ จรรยา
ศรีสุวรรณ ถือเป็น NGO นักเคลื่อนไหว ต่อสู้ความไม่เป็นธรรมในสังคม โดยใช้กฎหมายที่เรียนมา ฟ้องร้อง ตรวจสอบความยุติธรรม มากกว่า 3,000 คดี เคยทำงานในสังกัดมูลนิธิเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เป็น นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน แต่ปัจจุบันทำงานการเคลื่อนไหวด้านการเมืองในตำแหน่ง เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย
ศรีสุวรรณ จรรยา เคยถูกตั้งแคมเปญบน Change.org เชิญประชาชนถอดถอนชื่อ ศรีสุวรรณ ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เนื่องจากการร้องเรียนที่ผ่านมา เป็นการร้องเรียนเรื่องที่ไม่ควรร้องเรียนและลดความเจริญก้าวหน้า สร้างความแตกแยก แบ่งฝ่าย ในสังคมไทย
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊กศรีสุวรรณ จรรยา
ศรีสุวรรณ จรรยา ร้อง โน้ส อุดม "เดี่ยว 13"
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามครรลองของกฎหมาย กรณีมีบุคคลทอล็คโชว์เดี่ยวไมโครโฟน-13 ซึ่งเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีการใช้ถ้อยคำ บางคำพูดอันอาจมีลักษณะส่งเสริมให้บุคคลร่วมชุมนุมสาธารณะที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจขัดต่อความมั่นคงของรัฐและหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ประกอบ พรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 หรือไม่ อย่างไร
ทั้งนี้ บทพูดของการโชว์เดี่ยวไมโครโฟนดังกล่าว มีบางคำพูด อาทิ “วันนี้รถติดเยอะหน่อย มีม็อบไล่คนที่เราอยากจะไล่เขา ก็ให้อภัยเขาไปนะครับ ถือว่าเขาทำงานแทนเรา” นั้น จะสื่อความหมายไปอย่างอื่นมิได้ นอกเสียจากการพูดเพื่อที่จะสื่อหรือโฆษณาให้ผู้ฟังหรือผู้ชม ได้เข้าใจตรงกันว่า มีเจตนาหรือจงใจที่จะให้ทุกคนที่รับฟังและรับชมให้อภัยกลุ่มผู้ที่ออกมาชุมนุมสาธารณะที่เกิดขึ้นหลายๆครั้งเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั่น “ทำงานแทนเรา” นั่นเอง โดยที่การชุมนุมเหล่านั้นล้วนผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนข้อกำหนดใน ม.9 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน 2548 และมีการสอดใส้การชุมนุมเป็นเรื่องการยกเลิก ปอ.112 และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ มิใช่การชุมนุมเพื่อขับไล่ผู้นำรัฐบาลแต่อย่างใดไม่
กรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใด หากแต่อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผิดต่อแผ่นดิน อาจกระทบต่อความมั่นคง และอาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.84 ม.85 และหรือ ม.87 ประกอบ ม.14 แห่งพรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นด้วย และหรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมาแจ้งต่อ บก.ปอท. ให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบ สอบสวน กรณีดังกล่าวว่าเข้าข่ายความผิดอาญาต่อแผ่นดินหรือไม่ หากพบว่าเป็นความผิดให้ดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊กศรีสุวรรณ จรรยา
ศรีสุวรรณ โดนต่อย
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ของนายศรีสุวรรณ ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เนื่องจากมีชายรายหนึ่งบุกเข้าต่อยที่หน้าของนายศรีสุวรรณ ทราบชื่อว่านายวีรวิทย์ รุ่งเรืองศิริผล อายุ 62 ปี บุกเข้าฉกหน้านายศรีสุวรรณ จนเกิดการชุลมุนนานร่วม 10 นาที ก่อนจะมีช่างภาพสื่อมวลชนที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าห้ามปรามแยกออกจากกัน
โดยชายที่ก่อเหตุระบุว่า เป็นการตบเพื่อสั่งสอน แม้ประชาธิปไตยจะต้องรับฟังความเห็นต่างได้ แต่สิ่งที่นายศรีสุวรรณทำ เป็นการกระทำที่เกินเลย ร้องเรียนทุกอย่างจนเกินเหตุ จนตนเองทนไม่ไหว ขอมาเพื่อสั่งสอน และพร้อมถูกดำเนินคดี
ข้อมูล ศรีสุวรรณ จรรยา
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.
คลิกเลย >>> TrueID Community <<<