สูตรตัน ICHI ปั๊มกำไร จุดเด่นลุยดื่มวิตามิน

ทันหุ้น-สู้โควิด-ตันประกาศลุยเครื่องดื่มวิตามินซีหนัก ลั่นโอกาสแบบนี้ 10 ปีมีครั้งเดียว หวังสร้างปรากฏการณ์เหมือนครั้งบุกตลาดชาเชียว รับตั้งใจลงมือเอง พร้อมวางจุดเด่นด้านคุณภาพ ราคา ปริมาณคุ้ม พร้อมเร่งผลิตเครื่องดื่มหลายรูปแบบขายราคา 10 บาท ระบุกลยุทธ์ราคาแม้ลดแล้วยังมีกำไร เหตุได้ประหยัดต่อขนาดในฝั่งกำลังผลิต

นายตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยผ่านรายการทันหุ้น-ทันเกม ว่า บริษัทกำลังเห็นโอกาสอย่างมากในเครื่องดื่มวิตามินซีที่มีโอกาสเติบโตสูง ซึ่ง 10 ปีมีครั้งหนึ่ง เหมือนอย่างชาเขียวที่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับธุรกิจนี้อย่างมาก ซึ่งปกติแล้วตนจะดูธุรกิจจากด้านบน แต่ขณะนี้ได้ลงมาลุยกำกับการผลิตการตลาดด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตามยอมรับว่าบริษัทมาทีหลังดังนั้นการการเดินกลยุทธ์จึงต้องเข้มข้น และหวังว่าจะประสบความสำเร็จเมื่อครั้งที่ดำเนินการอย่างธุรกิจชาเขียว ซึ่งก็มีเจ้าตลาดอยู่ก่อนหน้า

บริษัทมีผลิตเครื่องดื่ม อิชิตัน วิตามิน วอเตอร์ ซี พลัส อี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำวิตามิน ซี และ อี มาอยู่ในเครื่องดื่มเดียวกัน และใช้การขายในราคา 10 บาท สำหรับ 350 มิลลิลิตร และ 20 บาท สำหรับ 550 มิลลิลิตร เสริมภูมิต้นทานป้องกันไข้หวัด ขณะเดียวกันก็บริษัทยังมีเครื่องดื่มวิตามินซีสูง อิชิตัน วิตซีซี ที่จะขยายในราคา 15 บาท กับ ปริมาณที่มากถึง 280 มิลลิลิตร

นอกจากนี้บริษัทยังมีเครื่องดื่มสุขภาพ เช่น น้ำด่างที่มีการวางขายจำนวนมากในราคาเพียง 10 บาท รวมถึงผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มอื่นๆ ที่จำหน่ายในราคา 10 บาท ทำให้ได้รับความนิยม

ส่วนการเล่นกลยุทธ์ด้านราคา 10 บาทนั้น นายตัน ยืนยันว่า บริษัทจะมีกำไรเนื่องจากเป็นจุดเด่นด้านการผลิตจำนวนมากทำให้ต้นทุนต่อหน่วยถูกลง และนับเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้บริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยในด้านของมาร์จิ้นในการผลิตอีกต่อหนึ่ง ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตสูงถึง 1500 ล้านขวดต่อปี แต่ปัจจุบันใช้กำลังการผลิตเพียงราว 45-55% ดังนั้นการที่สามารถผลิตเพิ่มขึ้นได้ก็จะช่วยในด้านต้นทุนของค่าเสื่อมที่ตัดจ่ายลดลงได้

“ด้วยกำลังการผลิตจำนวนมากทำให้เราต้นทุนถูกลง โอกาสที่คู่แข่งจะเพิ่มกำลังการผลิตก็น้อย ดังนั้นการเพิ่มกำลังผลิจทำให้บริษัทมีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น ซึ่งสินค้าของบริษัทก็ต้องขายได้ด้วย โดยสินค้าของบริษัทนอกจากชาเชียวแล้ว ก็มาสู่สินค้าที่เป็นชีวิตประจำวัน อย่างเครื่องดื่มน้ำด่างที่ดื่มได้ทุกวัน ขายยกลังอาจจะกำไรจากการขายไม่มาก แต่ก็ไม่ขาดทุน”

สำหรับการล็อกดาวน์จาร์กาต้าร์ในอินโดนีเซียนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจาก บริษัทขายสินค้ากระจายในหายภูมิภาคของอินโดนีเซีย ประกอบกับ สินค้าของบริษัทที่ได้มีการปรับแผนมาสู่สินค้าที่เป็นเอกลักาณื เช่น ชานมไทย และสามารถขายราคาสูงทำให้ อินโดนีเซียขณะนี้มีกำไร และเชื่อว่าปีนี้จะอินโดนีเซียจะส่งกำไรกลับคืนมาให้บริษัทได้แน่นอน