สรุปคดีแตงโม เปิดข้อหา "ปอ โรเบิร์ต แซน กระติก จ๊อบ และกุนซือ" สั่งฟ้อง 6 ผู้ต้องหา ประมาททำ "แตงโม" เสียชีวิต
ข่าวแตงโม สรุปคดีแตงโมตกเรือ หลังจากมีการแถลงข่าวแตงโม หรือ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีรพงษ์ ตกเรือเสียชีวิต เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณท่าเรือพิบูลย์สงคราม 1 เวลาประมาณ 22.34 น. โดยบุคคลบนเรือประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมสั่งฟ้อง 6 ผู้ต้องหารวมกุนซือ ตำรวจมั่นใจพยานหลักฐาน ตกท้ายเรือ บาดแผลเกิดจากใบพัดเรือ
จากภาพหลักฐานคงไม่มีผู้ใดสามารถ ยืนยันได้ว่า แตงโมไปปัสสาวะ บริเวณท้ายเรือจริงหรือไม่ เพราะมีเพียงคำให้การของ นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ (แซน) เพียงคนเดียว แต่จากการเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ทั้งจีพีเอสของเรือ ภาพจากกล้องวงจรปิด รวมถึงผลการชันสูตรบาดแผล (26 รอย) ของแตงโม สอดคล้องกับการปั่นของใบพัดเรือ (ตกเรือแล้วถูกใบพัดดูด) แพทย์สรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่า เกิดจากการขาดอากาศหายใจ จากการจมน้ำ ทำให้สันนิษฐานได้ว่า มีผู้เดินไปบริเวณท้ายเรือ และหายไปจากท้ายเรือ ในเวลาประมาณ 22.34.10 นาที แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่า เหตุนี้เป็นการกระทำโดยประมาทอย่างไร เนื่องจาก มีผลต่อการต่อสู้คดีของผู้ต้องหา
พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า สำหรับช่วงเวลาการเสียชีวิตของแตงโม คือเวลา 22.34.10 น. ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จากนั้นในเวลา 23.42 น. พ.ต.ต.อุเทน หงษ์ทอง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีหญิงตกจากเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งหลังจากได้รับแจ้งเหตุ ก็พบว่ามีหลายหน่วยงานเข้าให้ความช่วยเหลือและค้นหา แต่ก็ไม่พบร่างแตงโมแต่อย่างใด จากนั้นในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เวลา 13.40 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงพบร่างของ ซึ่งห่างจากท่าเรือพิบูลสงคราม1 ไม่กี่ร้อยเมตร จากนั้นแพทย์เวรจึงทำการชันสูตรพลิกศพและเตรียมสู่ขั้นตอนการดำเนินกฎหมายต่อไป
พยานหลักฐาน "คดีแตงโม" ประกอบด้วย
- ผู้กล่าวหา 4 ปาก
- ผู้ต้องหา 6 ปาก
- พยานบุคคล รวม 124 ปาก แย้งเป็น พยานบุคคล 108 ปาก และพยานผู้เชี่ยวชาญ 16 ปาก
- พยานเอกสาร ผลการตรวจต่างๆ 47 ฉบับ
- พยานวัตถุ 88 ชิ้น
- ไฟล์คลิปวิดีโอ จำนวน 200 คลิป
- สำนวนมีเอกสารทั้งสิ้น 2,249 หน้า
- มีผู้ต้องหาทั้งหมด 6 ราย โดยพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ทุกข้อหา
จากพยานหลักฐานทั้งหมด จะสามารถสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คนได้ ประกอบด้วยบุคคลบนเรือ 5 คน และที่ปรึกษาทางคดี 1 คน โดยความผิดในข้อหาหลัก คือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จึงยืนยันได้ว่าเหตุที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การที่แตงโมตกน้ำเสียชีวิตเอง แต่เกิดจากบุคคลอื่น โดยสำนวนทั้งหมดจะนำไปยื่นต่ออัยการ
ข้อหาผู้ต้องหา 6 ราย มีอะไรบ้าง
- นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ไฮโซปอ จำนวน 6 ข้อหา ได้แก่
- ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
- ขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาต
- ใช้เรือที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ
- ไม่ติดชื่อเรือเป็นอักษรไทยและอักษรฝรั่งที่หัวเรือ
- ทิ้งสิ่งของหรือสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำ
- ให้การเท็จ
- นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือ โรเบิร์ต จำนวน 4 ข้อหา ได้แก่
- ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
- ขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาต
- ใช้เรือที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ
- ทิ้งสิ่งของหรือสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำ
- นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาทร หรือ จ๊อบ จำนวน 2 ข้อหา ได้แก่
- ทำลายหลักฐาน
- ทิ้งสิ่งของหรือสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำ
- นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน จำนวน 1 ข้อหา ได้แก่
- ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
- ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
- น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก จำนวน 2 ข้อหา ได้แก่
- ให้การเท็จ
- ทำลายหลักฐาน
- นายภีม หรือเอ็ม ธรรมธีรศรี ผู้ให้คำปรึกษาแก่ 5 คนบนเรือ ถูกแจ้งข้อหาจำนวน 2 ข้อหา ได้แก่
- เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ
- ทำลายหลักฐาน
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ยืนยันว่าอุบัติเหตุอาจจะเป็นการที่ผู้ตายประมาทลงน้ำเอง แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานว่ามีผู้กระทำการโดยประมาท ส่วนรายละเอียดถึงการกระทำโดยประมาทดังกล่าวนั้น เป็นรายละเอียดในสำนวน ส่วนประเด็นเรื่องการปัสสาวะนั้นมีบุคคลคนเดียวคือนายแซน ที่ให้การว่าแตงโมเกาะขาขณะปัสสาวะและพยานบุคคลรายอื่นก็เห็นเช่นกันว่าแตงโมไปที่ท้ายเรือ แต่ตนคงไม่สามารถตอบได้ว่ามีการปัสสาวะหรือไม่ ซึ่งน่าเชื่อว่ามีบุคคลมาที่ท้ายเรือและหายไป ทั้งนี้ การตกบริเวณหัวเรือหรือท้ายเรือนั้น ประเด็นอยู่ที่บาดแผล ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวน เชื่อว่าเข้ากันกับใบพัดเรือที่อยู่บริเวณท้ายเรือ นอกจากนี้ ตามร่างกายไม่มีร่องรอยการถูกกระแทก ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหลังหรือศีรษะ ส่วนการให้การของนายแซน ที่ถูกดำเนินคดีข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายนั้น ไม่สามารถเปิดเผยคำให้หารได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวน
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวอีกว่า ประเด็นสำคัญคือการกระทำโดยประมาท และบาดแผลที่เกิดขึ้นเข้าได้กับใบพัดเรือ ส่วนสารยูเรียซึ่งเป็นส่วนประกอบในปัสสาวะนั้นไม่พบภายในเรือแต่อย่างใด เพราะสารยูเรียสามารถละลายในน้ำได้ รวมถึงส่วนท้ายเรือก็โดนน้ำซะอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการปิดบังความจริงของผู้ต้องหาที่ให้การเท็จนั้น สาเหตุเพราะบุคคลบนเรือมีอาการเมา และหลังเกิดเหตุคงมีการปรึกษาผู้อื่น ได้รับคำแนะนำไม่ให้ไปพบตำรวจ จึงมีการนัดแนะเรื่องคำให้การ
ขณะที่ พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า ในเรื่องของการปัสสาวะท้ายเรือนั้น คำให้การทั้งหมดของผู้ต้องหา ต้องไปดูว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ก็ได้มีการพิสูจน์เรื่องการปัสสาวะ ซึ่งมีการเก็บผลทางวิทยาศาสตร์แล้ว ซึ่งจะอยู่ในสำนวนนำส่งอัยการต่อไป ส่วนกรณีที่อัยการจะตีกลับไม่รับสำนวนนั้น ตามหลักกฎหมายแล้ว เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้น ก็จะต้องมีการนำส่งให้พนักงานอัยการ และพนักงานอัยการก็จะมีหน้าที่รับสำนวนและรับตัวผู้ต้องหาไปตามกระบวนกฎหมาย จะสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้องก็แล้วแต่ดุลยพินิจ
ด้าน พล.ต.ต.หญิง ชุติมา ชัยมุสิก ผบก.ศพฐ.1 กล่าวว่า จากการตรวจสอบ ในเรือมีลายนิ้วมือและดีเอ็นเอครบทุกคน นอกจากนี้ยังพบเส้นผม ซึ่งเป็นรายละเอียดในสำนวนว่าเป็นเส้นผมของใคร โดยในกรณีที่มีคราบเลือดนั้น สามารถทำการสิบสวนสอบสวนได้ เช่นกรณีฆ่าหั่นศพที่จ.พระนครศรีอยุธยา ก็สามารถสืบสวนสอบสวนจนนำมาส่การจับกุมได้ แม้จะถูกล้างเลือดไปแล้ว
ข้อมูล สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ข่าวเกี่ยวข้อง :
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.
คลิกเลย >>> TrueID Community <<<