#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
สถานีโทรทัศน์ของอิหร่าน เปิดภาพซากเฮลิคอปเตอร์ที่มีผู้โดยสาร คือ ประธานาธิบดีอิหร่าน นายอิบราฮิม ไรซี และ คณะผู้ติดตาม ที่ประสบเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในลักษณะลงจอดแบบกระแทกรุนแรง (rough landing) ซึ่งเป็นการลงจอดแบบไม่ปกติ เมื่อวันที่19 พ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่คณะของประธานาธิบดีซึ่งประกอบด้วยเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ กำลังบินข้ามพื้นที่หุบเขาทางภาคเหนือของประเทศท่ามกลางหมอกปกคลุมหนา มุ่งหน้าไปยังเมืองทาบริซ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ หลังเดินทางกลับจากภารกิจไปเยือนพื้นที่พรมแดนอิหร่านติดกับประเทศอาร์เซอร์ไบจาน - อากาศยานผู้นำอิหร่านนำเข้าจากชาติคู่ปรับรายงานข่าวแจ้งว่าพาหนะที่นำคณะของประธานาธิบดี ไรซี บินข้ามหุบเขาคือ เฮลิคอปเตอร์รุ่น Bell 212 เป็นหนึ่งในเฮลิคอปเตอร์ชนิด UH-1N หรือที่รู้จักกันให้ชื่อเฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ ของบริษัท เบลล์ เฮลิคอปเตอร์ของสหรัฐอเมริกา Bell 212 คือ เฮลิคอปเตอร์ขนาดกลาง 2 ใบพัด 2 เครื่องยนต์ สามารถทำการบินได้ไกลถึง 420 กม.ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. บรรทุกทหารหรือผู้โดยสารได้ 15 คน Bell 212 เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่พัฒนาต่อยอดมาจากลิคอปเตอร์ รุ่น Huey ซึ่งจะมีเพียงเครื่องยนต์เดี่ยว ต่อมาได้มีการพัฒนา และติดตั้งให้มีสองเครื่องยนต์เพื่อให้เกิดสมรรถนะและความปลอดภัยที่มากขึ้น -นำเครื่องฝ่าหมอกหุบเขาเปรียบเหมือนปิดตาเดินเข้าบ้าน สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลอิหร่านรายงานและเผยแพร่ภาพข่าว ซึ่งเป็นภาพของหมอกหนาปกคลุมพื้นที่ซึ่งคาดว่าเฮลิคอปเตอร์ประสบอุบัติเหตุ ห่างจากเมืองทาบริซไปทางเหนือราว 50 กิโลเมตร สภาพอากาศที่หมอกลงหนาจัด ทำให้ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยทำได้ทางภาคพื้นดินเท่านั้น ไม่สามารถใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน และอุปกรณ์การบินอื่นๆ เนื่องจากทัศนวิสัยย่ำแย่ ไม่สามารถมองเห็นเกิน 5 เมตร ซึ่งทัศนวิสัยอันเลวร้ายในจุดเกิดเหตุอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายครั้งนี้ แหล่งข่าวซึ่งเป็นอดีตนักบินทหารของเหล่าทัพไทยวิเคราะห์ว่าสาเหตุของการตกของเฮลิคอปเตอร์ผู้นำอิหร่านน่าจะเกิดจากการนำอากาศยานเข้าไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ทั้งลักษณะภูมิประเทศ และ ทัศนวิสัยที่ไม่ปกติ ผู้เชี่ยวชาญการบิน ชี้ว่าการนำอากาศยานเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวไม่ต่างกับการที่ “ปิดตาเดินเข้าไปในบ้าน” เพราะด้วยทัศนวิสัยที่มีหมอกปกคลุมหนาแน่นการขึ้นทำการบิน นักบินจะไม
อ่านต่อ >#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
กลายเป็นกระแสดราม่าระหว่างประเทศ หลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ขุดพบในลำน้ำโขง ฝั่ง สปป.ลาว เป็นพระที่ทำขึ้นใหม่ โดยมีการแสดงความเห็นว่าพ่อค้าวัตถุโบราณคนไทยอยู่เบื้องหลัง ล่าสุด นายศุภกนก์ธีร์ อนุศรี หรือ เสี่ยโต่ง ขอนแก่น อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย ได้แสดงความเห็นผ่านโพสต์บนเฟซบุ๊ก ‘Suphakontee Anusri’ มีเนื้อหาบางตอนว่า ด้วยประสบการณ์เกิน 40 ปี ที่อยู่กับพระศิลปะล้านช้าง ยังมองไม่เห็นเลยว่า ตรงไหนที่เป็นพระสร้างใหม่ ถ้าไม่เก่าจริง จะบวชให้ตลอดชีวิตเลย วิธีการดู ไม่ยาก เม็ดพระศกปั้นเกลียว ฝีมือชั้นครู ไม่ได้ตักหยอดแล้วมาแปะ ส่วนการหล่อเข้าลิ่ม หรือ สลัก เป็นเรื่องธรรมดาของแต่ละสกุลช่าง ที่ถนัดในการเคลื่อนย้าย และ ปั้นหุ่นเท โดยเห็นมานับร้อยองค์ที่แบบคอเป็นเดือยแท่ง ยกเศียรสวมยิ่งหายาก คำว่า สำริด จะมีส่วนผสมโลหะหลายอย่าง ตามภูมิประเทศนั้นๆ และ หากไม่ใช้แร่ หรือ โลหะบางอย่างใส่ลงไป จะทนทานต่อสภาวะอากาศมาก จะตากแดด ตากลม จะฝังดิน ก็ไม่ได้ผุกร่อนง่ายๆเลย หากใช้เนื้อที่บริสุทธิ์เป็นตัวผสมนายศุภกนก์ธีร์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมอีกว่า ภาพที่คนติดใจ คือ รอยต่อที่เหมือนการเชื่อมสมัยใหม่ ความจริง คือ เทคนิคช่างสมัยโบราณ ที่แก้ปัญหาเวลาโลหะ 2 ชิ้น ห่างกัน จะใช้การวิ่งตะกั่ว หรือ การบัดกรีตะกั่ว จากนั้น จึงลงรักปิดทอง ที่ไม่กัดกร่อน เพราะมวลวัตถุธาตุที่ผสมกันเป็นเนื้อบริสุทธิ์ และอยู่ในอุณหภูมิ สิ่งแวดล้อมที่ดี มีทรายละเอียดทับถม จึงรักษาสภาพได้ ถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะมีการเลียนแบบแนบเนียน มองว่า ไม่มีทาง ช่างที่หล่อเข้าลิ่มแบบนี้ เสียชีวิตไปหมดแล้ว ทั้งนี้ตนขอเอาตำแหน่งอุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย รับประกันว่า พระพุทธรูปดังกล่าว เป็นพระแท้ ดูง่ายสบายตา ไซส์พระขนาดนี้ มองว่า องค์นี้มีความสวยงามติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลก และมีความเก่าแก่ถึงยุค เกิน 500 ปี เป็นศิลปะล้านช้างเหนือ หรือ หลวงพระบาง ดูจากลักษณะหางตา กรีดขึ้นข้างบน ที่เป็นเอกลักษณ์ คนไทยบางคนที่เข้าวงการพระเครื่องใหม่ ๆ จะมองว่า อยู่ในอาณาจักรเชียงแสน แต่จริง ๆ คือ ล้านช้างยุคต้น โดยพระเชียงแสน สิงห์ 3 จะมีแหวนรองเกศเป็นมาตรฐาน แต่ล้านช้าง จะเป็นรูกลวง สามารถจับเกศตั้งสวมได้เลยข้อมูลจาก: ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดขอนแก่น ภาพจาก: ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดขอนแก่น
อ่านต่อ >11
#ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี #TNN ช่อง16
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม เฮลิคอปเตอร์รุ่นเบลล์ 212 (Bell 212) ที่นายเอบราฮิม ราอิซี อดีตประธานาธิบดีอิหร่านนั่งโดยสารนั้นประสบอุบัติเหตุตก และได้รับการยืนยันในวันนี้ (20 พฤษภาคม) ว่าเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้โดยสารทั้งหมดรวมถึงประธานาธิบดีเสียชีวิต โดยตามการรายงานของสื่อท้องถิ่นในอิหร่าน ระบุว่า ทางการอิหร่าน แถลงสาเหตุเบื้องต้นการตกของเฮลิคอปเตอร์รุ่น Bell 212 ที่ใช้เป็นเฮลิคอปเตอร์โดยสารสำหรับประธานาธิบดีอิหร่าน คือสภาพอากาศที่ย่ำแย่ในบริเวณใกล้ชายแดนอาเซอร์ไบจาน (Azerbaijan) ซึ่งอยู่ในเส้นทางเยี่ยมชมความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเขื่อนระหว่างประเทศ โดยมีทั้งฝนตกหนักและหมอกหนา แต่นอกจากสภาพอากาศแล้ว Bell 212 เฮลิคอปเตอร์ลำที่ตกเองก็มีการตั้งคำถามว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนด้วยเช่นกันข้อมูลเฮลิคอปเตอร์ที่ประธานาธิบดีอิหร่านใช้Bell 212 เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ผลิตระหว่างปี 1968–1998 โดยเบลล์ เฮลิคอปเตอร์ส (Bell Helicopters) ผู้ผลิตชื่อดังสัญชาติอเมริกัน โดยรุ่นที่ประธานาธิบดีอิหร่านโดยสารคาดว่าเป็นรุ่นพลเรือนที่รองรับผู้โดยสารสูงุสด 15 ที่นั่ง และใช้คนขับ 1 คน รองรับน้ำหนักสัมภาระได้สูงสุด 2,268 กิโลกรัมใบพัดของ Bell 212 มีกำลังอยู่ที่ 1,800 แรงม้า (shp) ความเร็วอยู่ที่ 100 น็อต (kn) หรือประมาณ 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะการบินอยู่ที่ 439 กิโลเมตร เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่มีใช้งานในหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วโลก รวมถึงในสหรั้ฐอเมริกา ญี่ปุ่น และตำรวจไทยก็มีใช้งานรุ่นนี้เช่นกันรายงานอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์รุ่น Bell 212 ทั้งนี้ ข้อมูลจากเอวิเอชัน เซฟตี้ เน็ตเวิร์ค (Aviation Safety Network) มูลนิธิด้านความปลอดภัยการบิน ระบุว่า เฮลิคอปเตอร์ Bell 212 ทั้งรุ่นสำหรับพลเรือนและรุ่นทางการทหารประสบอุบัติเหตุตั้งแต่ปี 1972 จนถึงปี 2024 มีเหตุการณ์รวม 432 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 630 คน โดยครั้งล่าสุดที่มีความรุนแรงนั้นเกิดขึ้นในสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ในบริษัทเอกชน และมีผู้เสียชีวิต 4 รายอย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกทั่วสหรัฐอเมริกาในปี 2023 ที่ผ่านมานั้นเกิดขึ้นกว่า 100 ครั้ง และในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้มีผู้เสียชีวิตรวม 18 ราย ตามการรายงานของ ยูเอส เฮลิคอปเตอร์ เซฟตี้ ทีม (U.S. Helicopter Safety Team: USHST) องค์กรอิสระด้านความปลอดภัยของเฮลิคอปเตอร์ในสหรัฐอเมริกา อีกทั้งเฮลิคอปเตอร์เป็นยานพาหนะที่พึ่ง
อ่านต่อ >#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงยืนยัน ข้าวที่มาได้จากกระทรวงพาณิชย์อายุ 10 ปี มีสารอาหารครบ ไม่แตกต่างจากข้าวที่เพิ่งซื้อมากจากตลาด มีสารอาหารครบถ้วน แต่ยังพบมีสิ่งแปลกปลอม และมอดเจือปน โดย นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน และนางวิชาดา จงมีวาสนา ผู้อำนวยการสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร แถลงข่าวผลการตรวจตัวอย่างข้าวที่ได้รับจากกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งผลการตรวจด้านกายภาพพบสิ่งมีชีวิตเป็นตัวมอด และซากตัวมอด ส่วนด้านความปลอดภัยยืนยันว่าไม่พบสารพิษ และสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ส่วนการตรวจด้านคุณค่าทางอาหารนั้น ทั้งสองตัวอย่างมีคุณค่าทางอาหารไม่แตกต่างจากตัวอย่างข้าวสารที่ขายตามท้องตลาด พร้อมยืนยันการตรวจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นไปตามมาตรฐานสากล และห้องปฏิบัติการที่ใช้ตรวจสอบก็เป็นห้องปฏิบัติการที่มีศักยภาพสูงมีความน่าเชื่อถือในระดับสากลซึ่งข้าวที่ได้รับมาตรวจสอบ แบ่งเป็น 2 ตัวอย่าง จาก 2 โกดัง จะมีตัวอย่างน้ำหนัก 3 กิโลกรัม และน้ำหนัก 5 กิโลกรัม โดยนำมาเปรียบเทียบกับข้าวจากท้องตลาดอีก 2 ตัวอย่าง เริ่มตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ส่วนรายการทดสอบคุณภาพและความปลอดภัย แบ่งเป็น 3 ประเภท ประเภทแรก ด้านกายภาพ และสิ่งแวดล้อม ในเรื่องของลักษณะ สี สิ่งแปลกปลอม อย่าง พวกแมลงสาบ ประเภทที่ 2 ด้านความปลอดภัยจากการตรวจหาสารพิษจากเชื้อรา สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช และสารโลหะหนักปนเปื้อนและ ประเภทที่ 3. ด้านคุณค่าทางโภชนาการ ตรวจหา สารอาหารและแร่ธาตุ นพ.ยงยศ ยังย้ำว่า การตรวจสอบข้าว ดำเนินการในห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน และมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย มีความแม่นยำสูง รวมทั้งยังใช้นักวิทยาศาสตร์ที่มีความชำนาญกว่า 10 คน ส่วนข้าวล็อตนี้จะนำไปขายได้เมื่อไร นายกฤษณรักษ์ ใจดี รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า เปิดเผยว่า อยู่ในกระบวนการที่คณะกรรมการกำลังดำเนินการตรวจสอบ คาดว่า จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน พร้อมบอกว่า การทำ TOR ต้องทำอย่างรอบคอบมากที่สุด ที่ อาคาร 100 ปี การสาธารณสุขไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี(เมื่อวันที่ 20 พ.ค.67)ภาพโดย: ธนาชัย ประมาณพาณิชย์
อ่านต่อ >1
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
สถานีโทรทัศน์ของอิหร่าน เปิดภาพซากเฮลิคอปเตอร์ที่มีผู้โดยสาร คือ ประธานาธิบดีอิหร่าน นายอิบราฮิม ไรซี และ คณะผู้ติดตาม ที่ประสบเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในลักษณะลงจอดแบบกระแทกรุนแรง (rough landing) ซึ่งเป็นการลงจอดแบบไม่ปกติ เมื่อวันที่19 พ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่คณะของประธานาธิบดีซึ่งประกอบด้วยเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ กำลังบินข้ามพื้นที่หุบเขาทางภาคเหนือของประเทศท่ามกลางหมอกปกคลุมหนา มุ่งหน้าไปยังเมืองทาบริซ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ หลังเดินทางกลับจากภารกิจไปเยือนพื้นที่พรมแดนอิหร่านติดกับประเทศอาร์เซอร์ไบจาน - อากาศยานผู้นำอิหร่านนำเข้าจากชาติคู่ปรับรายงานข่าวแจ้งว่าพาหนะที่นำคณะของประธานาธิบดี ไรซี บินข้ามหุบเขาคือ เฮลิคอปเตอร์รุ่น Bell 212 เป็นหนึ่งในเฮลิคอปเตอร์ชนิด UH-1N หรือที่รู้จักกันให้ชื่อเฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ ของบริษัท เบลล์ เฮลิคอปเตอร์ของสหรัฐอเมริกา Bell 212 คือ เฮลิคอปเตอร์ขนาดกลาง 2 ใบพัด 2 เครื่องยนต์ สามารถทำการบินได้ไกลถึง 420 กม.ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. บรรทุกทหารหรือผู้โดยสารได้ 15 คน Bell 212 เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่พัฒนาต่อยอดมาจากลิคอปเตอร์ รุ่น Huey ซึ่งจะมีเพียงเครื่องยนต์เดี่ยว ต่อมาได้มีการพัฒนา และติดตั้งให้มีสองเครื่องยนต์เพื่อให้เกิดสมรรถนะและความปลอดภัยที่มากขึ้น -นำเครื่องฝ่าหมอกหุบเขาเปรียบเหมือนปิดตาเดินเข้าบ้าน สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลอิหร่านรายงานและเผยแพร่ภาพข่าว ซึ่งเป็นภาพของหมอกหนาปกคลุมพื้นที่ซึ่งคาดว่าเฮลิคอปเตอร์ประสบอุบัติเหตุ ห่างจากเมืองทาบริซไปทางเหนือราว 50 กิโลเมตร สภาพอากาศที่หมอกลงหนาจัด ทำให้ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยทำได้ทางภาคพื้นดินเท่านั้น ไม่สามารถใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน และอุปกรณ์การบินอื่นๆ เนื่องจากทัศนวิสัยย่ำแย่ ไม่สามารถมองเห็นเกิน 5 เมตร ซึ่งทัศนวิสัยอันเลวร้ายในจุดเกิดเหตุอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายครั้งนี้ แหล่งข่าวซึ่งเป็นอดีตนักบินทหารของเหล่าทัพไทยวิเคราะห์ว่าสาเหตุของการตกของเฮลิคอปเตอร์ผู้นำอิหร่านน่าจะเกิดจากการนำอากาศยานเข้าไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ทั้งลักษณะภูมิประเทศ และ ทัศนวิสัยที่ไม่ปกติ ผู้เชี่ยวชาญการบิน ชี้ว่าการนำอากาศยานเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวไม่ต่างกับการที่ “ปิดตาเดินเข้าไปในบ้าน” เพราะด้วยทัศนวิสัยที่มีหมอกปกคลุมหนาแน่นการขึ้นทำการบิน นักบินจะไม
อ่านต่อ >#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
กลายเป็นกระแสดราม่าระหว่างประเทศ หลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ขุดพบในลำน้ำโขง ฝั่ง สปป.ลาว เป็นพระที่ทำขึ้นใหม่ โดยมีการแสดงความเห็นว่าพ่อค้าวัตถุโบราณคนไทยอยู่เบื้องหลัง ล่าสุด นายศุภกนก์ธีร์ อนุศรี หรือ เสี่ยโต่ง ขอนแก่น อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย ได้แสดงความเห็นผ่านโพสต์บนเฟซบุ๊ก ‘Suphakontee Anusri’ มีเนื้อหาบางตอนว่า ด้วยประสบการณ์เกิน 40 ปี ที่อยู่กับพระศิลปะล้านช้าง ยังมองไม่เห็นเลยว่า ตรงไหนที่เป็นพระสร้างใหม่ ถ้าไม่เก่าจริง จะบวชให้ตลอดชีวิตเลย วิธีการดู ไม่ยาก เม็ดพระศกปั้นเกลียว ฝีมือชั้นครู ไม่ได้ตักหยอดแล้วมาแปะ ส่วนการหล่อเข้าลิ่ม หรือ สลัก เป็นเรื่องธรรมดาของแต่ละสกุลช่าง ที่ถนัดในการเคลื่อนย้าย และ ปั้นหุ่นเท โดยเห็นมานับร้อยองค์ที่แบบคอเป็นเดือยแท่ง ยกเศียรสวมยิ่งหายาก คำว่า สำริด จะมีส่วนผสมโลหะหลายอย่าง ตามภูมิประเทศนั้นๆ และ หากไม่ใช้แร่ หรือ โลหะบางอย่างใส่ลงไป จะทนทานต่อสภาวะอากาศมาก จะตากแดด ตากลม จะฝังดิน ก็ไม่ได้ผุกร่อนง่ายๆเลย หากใช้เนื้อที่บริสุทธิ์เป็นตัวผสมนายศุภกนก์ธีร์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมอีกว่า ภาพที่คนติดใจ คือ รอยต่อที่เหมือนการเชื่อมสมัยใหม่ ความจริง คือ เทคนิคช่างสมัยโบราณ ที่แก้ปัญหาเวลาโลหะ 2 ชิ้น ห่างกัน จะใช้การวิ่งตะกั่ว หรือ การบัดกรีตะกั่ว จากนั้น จึงลงรักปิดทอง ที่ไม่กัดกร่อน เพราะมวลวัตถุธาตุที่ผสมกันเป็นเนื้อบริสุทธิ์ และอยู่ในอุณหภูมิ สิ่งแวดล้อมที่ดี มีทรายละเอียดทับถม จึงรักษาสภาพได้ ถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะมีการเลียนแบบแนบเนียน มองว่า ไม่มีทาง ช่างที่หล่อเข้าลิ่มแบบนี้ เสียชีวิตไปหมดแล้ว ทั้งนี้ตนขอเอาตำแหน่งอุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย รับประกันว่า พระพุทธรูปดังกล่าว เป็นพระแท้ ดูง่ายสบายตา ไซส์พระขนาดนี้ มองว่า องค์นี้มีความสวยงามติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลก และมีความเก่าแก่ถึงยุค เกิน 500 ปี เป็นศิลปะล้านช้างเหนือ หรือ หลวงพระบาง ดูจากลักษณะหางตา กรีดขึ้นข้างบน ที่เป็นเอกลักษณ์ คนไทยบางคนที่เข้าวงการพระเครื่องใหม่ ๆ จะมองว่า อยู่ในอาณาจักรเชียงแสน แต่จริง ๆ คือ ล้านช้างยุคต้น โดยพระเชียงแสน สิงห์ 3 จะมีแหวนรองเกศเป็นมาตรฐาน แต่ล้านช้าง จะเป็นรูกลวง สามารถจับเกศตั้งสวมได้เลยข้อมูลจาก: ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดขอนแก่น ภาพจาก: ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดขอนแก่น
อ่านต่อ >11
#ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี #TNN ช่อง16
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม เฮลิคอปเตอร์รุ่นเบลล์ 212 (Bell 212) ที่นายเอบราฮิม ราอิซี อดีตประธานาธิบดีอิหร่านนั่งโดยสารนั้นประสบอุบัติเหตุตก และได้รับการยืนยันในวันนี้ (20 พฤษภาคม) ว่าเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้โดยสารทั้งหมดรวมถึงประธานาธิบดีเสียชีวิต โดยตามการรายงานของสื่อท้องถิ่นในอิหร่าน ระบุว่า ทางการอิหร่าน แถลงสาเหตุเบื้องต้นการตกของเฮลิคอปเตอร์รุ่น Bell 212 ที่ใช้เป็นเฮลิคอปเตอร์โดยสารสำหรับประธานาธิบดีอิหร่าน คือสภาพอากาศที่ย่ำแย่ในบริเวณใกล้ชายแดนอาเซอร์ไบจาน (Azerbaijan) ซึ่งอยู่ในเส้นทางเยี่ยมชมความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเขื่อนระหว่างประเทศ โดยมีทั้งฝนตกหนักและหมอกหนา แต่นอกจากสภาพอากาศแล้ว Bell 212 เฮลิคอปเตอร์ลำที่ตกเองก็มีการตั้งคำถามว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนด้วยเช่นกันข้อมูลเฮลิคอปเตอร์ที่ประธานาธิบดีอิหร่านใช้Bell 212 เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ผลิตระหว่างปี 1968–1998 โดยเบลล์ เฮลิคอปเตอร์ส (Bell Helicopters) ผู้ผลิตชื่อดังสัญชาติอเมริกัน โดยรุ่นที่ประธานาธิบดีอิหร่านโดยสารคาดว่าเป็นรุ่นพลเรือนที่รองรับผู้โดยสารสูงุสด 15 ที่นั่ง และใช้คนขับ 1 คน รองรับน้ำหนักสัมภาระได้สูงสุด 2,268 กิโลกรัมใบพัดของ Bell 212 มีกำลังอยู่ที่ 1,800 แรงม้า (shp) ความเร็วอยู่ที่ 100 น็อต (kn) หรือประมาณ 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะการบินอยู่ที่ 439 กิโลเมตร เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่มีใช้งานในหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วโลก รวมถึงในสหรั้ฐอเมริกา ญี่ปุ่น และตำรวจไทยก็มีใช้งานรุ่นนี้เช่นกันรายงานอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์รุ่น Bell 212 ทั้งนี้ ข้อมูลจากเอวิเอชัน เซฟตี้ เน็ตเวิร์ค (Aviation Safety Network) มูลนิธิด้านความปลอดภัยการบิน ระบุว่า เฮลิคอปเตอร์ Bell 212 ทั้งรุ่นสำหรับพลเรือนและรุ่นทางการทหารประสบอุบัติเหตุตั้งแต่ปี 1972 จนถึงปี 2024 มีเหตุการณ์รวม 432 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 630 คน โดยครั้งล่าสุดที่มีความรุนแรงนั้นเกิดขึ้นในสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ในบริษัทเอกชน และมีผู้เสียชีวิต 4 รายอย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกทั่วสหรัฐอเมริกาในปี 2023 ที่ผ่านมานั้นเกิดขึ้นกว่า 100 ครั้ง และในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้มีผู้เสียชีวิตรวม 18 ราย ตามการรายงานของ ยูเอส เฮลิคอปเตอร์ เซฟตี้ ทีม (U.S. Helicopter Safety Team: USHST) องค์กรอิสระด้านความปลอดภัยของเฮลิคอปเตอร์ในสหรัฐอเมริกา อีกทั้งเฮลิคอปเตอร์เป็นยานพาหนะที่พึ่ง
อ่านต่อ >#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงยืนยัน ข้าวที่มาได้จากกระทรวงพาณิชย์อายุ 10 ปี มีสารอาหารครบ ไม่แตกต่างจากข้าวที่เพิ่งซื้อมากจากตลาด มีสารอาหารครบถ้วน แต่ยังพบมีสิ่งแปลกปลอม และมอดเจือปน โดย นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน และนางวิชาดา จงมีวาสนา ผู้อำนวยการสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร แถลงข่าวผลการตรวจตัวอย่างข้าวที่ได้รับจากกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งผลการตรวจด้านกายภาพพบสิ่งมีชีวิตเป็นตัวมอด และซากตัวมอด ส่วนด้านความปลอดภัยยืนยันว่าไม่พบสารพิษ และสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ส่วนการตรวจด้านคุณค่าทางอาหารนั้น ทั้งสองตัวอย่างมีคุณค่าทางอาหารไม่แตกต่างจากตัวอย่างข้าวสารที่ขายตามท้องตลาด พร้อมยืนยันการตรวจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นไปตามมาตรฐานสากล และห้องปฏิบัติการที่ใช้ตรวจสอบก็เป็นห้องปฏิบัติการที่มีศักยภาพสูงมีความน่าเชื่อถือในระดับสากลซึ่งข้าวที่ได้รับมาตรวจสอบ แบ่งเป็น 2 ตัวอย่าง จาก 2 โกดัง จะมีตัวอย่างน้ำหนัก 3 กิโลกรัม และน้ำหนัก 5 กิโลกรัม โดยนำมาเปรียบเทียบกับข้าวจากท้องตลาดอีก 2 ตัวอย่าง เริ่มตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ส่วนรายการทดสอบคุณภาพและความปลอดภัย แบ่งเป็น 3 ประเภท ประเภทแรก ด้านกายภาพ และสิ่งแวดล้อม ในเรื่องของลักษณะ สี สิ่งแปลกปลอม อย่าง พวกแมลงสาบ ประเภทที่ 2 ด้านความปลอดภัยจากการตรวจหาสารพิษจากเชื้อรา สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช และสารโลหะหนักปนเปื้อนและ ประเภทที่ 3. ด้านคุณค่าทางโภชนาการ ตรวจหา สารอาหารและแร่ธาตุ นพ.ยงยศ ยังย้ำว่า การตรวจสอบข้าว ดำเนินการในห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน และมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย มีความแม่นยำสูง รวมทั้งยังใช้นักวิทยาศาสตร์ที่มีความชำนาญกว่า 10 คน ส่วนข้าวล็อตนี้จะนำไปขายได้เมื่อไร นายกฤษณรักษ์ ใจดี รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า เปิดเผยว่า อยู่ในกระบวนการที่คณะกรรมการกำลังดำเนินการตรวจสอบ คาดว่า จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน พร้อมบอกว่า การทำ TOR ต้องทำอย่างรอบคอบมากที่สุด ที่ อาคาร 100 ปี การสาธารณสุขไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี(เมื่อวันที่ 20 พ.ค.67)ภาพโดย: ธนาชัย ประมาณพาณิชย์
อ่านต่อ >1
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
สถานีโทรทัศน์ของอิหร่าน เปิดภาพซากเฮลิคอปเตอร์ที่มีผู้โดยสาร คือ ประธานาธิบดีอิหร่าน นายอิบราฮิม ไรซี และ คณะผู้ติดตาม ที่ประสบเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในลักษณะลงจอดแบบกระแทกรุนแรง (rough landing) ซึ่งเป็นการลงจอดแบบไม่ปกติ เมื่อวันที่19 พ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่คณะของประธานาธิบดีซึ่งประกอบด้วยเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ กำลังบินข้ามพื้นที่หุบเขาทางภาคเหนือของประเทศท่ามกลางหมอกปกคลุมหนา มุ่งหน้าไปยังเมืองทาบริซ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ หลังเดินทางกลับจากภารกิจไปเยือนพื้นที่พรมแดนอิหร่านติดกับประเทศอาร์เซอร์ไบจาน - อากาศยานผู้นำอิหร่านนำเข้าจากชาติคู่ปรับรายงานข่าวแจ้งว่าพาหนะที่นำคณะของประธานาธิบดี ไรซี บินข้ามหุบเขาคือ เฮลิคอปเตอร์รุ่น Bell 212 เป็นหนึ่งในเฮลิคอปเตอร์ชนิด UH-1N หรือที่รู้จักกันให้ชื่อเฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ ของบริษัท เบลล์ เฮลิคอปเตอร์ของสหรัฐอเมริกา Bell 212 คือ เฮลิคอปเตอร์ขนาดกลาง 2 ใบพัด 2 เครื่องยนต์ สามารถทำการบินได้ไกลถึง 420 กม.ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. บรรทุกทหารหรือผู้โดยสารได้ 15 คน Bell 212 เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่พัฒนาต่อยอดมาจากลิคอปเตอร์ รุ่น Huey ซึ่งจะมีเพียงเครื่องยนต์เดี่ยว ต่อมาได้มีการพัฒนา และติดตั้งให้มีสองเครื่องยนต์เพื่อให้เกิดสมรรถนะและความปลอดภัยที่มากขึ้น -นำเครื่องฝ่าหมอกหุบเขาเปรียบเหมือนปิดตาเดินเข้าบ้าน สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลอิหร่านรายงานและเผยแพร่ภาพข่าว ซึ่งเป็นภาพของหมอกหนาปกคลุมพื้นที่ซึ่งคาดว่าเฮลิคอปเตอร์ประสบอุบัติเหตุ ห่างจากเมืองทาบริซไปทางเหนือราว 50 กิโลเมตร สภาพอากาศที่หมอกลงหนาจัด ทำให้ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยทำได้ทางภาคพื้นดินเท่านั้น ไม่สามารถใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน และอุปกรณ์การบินอื่นๆ เนื่องจากทัศนวิสัยย่ำแย่ ไม่สามารถมองเห็นเกิน 5 เมตร ซึ่งทัศนวิสัยอันเลวร้ายในจุดเกิดเหตุอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายครั้งนี้ แหล่งข่าวซึ่งเป็นอดีตนักบินทหารของเหล่าทัพไทยวิเคราะห์ว่าสาเหตุของการตกของเฮลิคอปเตอร์ผู้นำอิหร่านน่าจะเกิดจากการนำอากาศยานเข้าไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ทั้งลักษณะภูมิประเทศ และ ทัศนวิสัยที่ไม่ปกติ ผู้เชี่ยวชาญการบิน ชี้ว่าการนำอากาศยานเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวไม่ต่างกับการที่ “ปิดตาเดินเข้าไปในบ้าน” เพราะด้วยทัศนวิสัยที่มีหมอกปกคลุมหนาแน่นการขึ้นทำการบิน นักบินจะไม
อ่านต่อ >