CGSI คาด 6 หุ้นอสังหาฯ รับผลบวกมากสุดจากมาตรการกระตุ้นศก.ของรัฐ

#ทันหุ้น-บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล เชื่อว่าการที่รัฐาลอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2567 เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการที่เน้นโครงการระดับกลาง โดยมองว่าการปรับเพิ่มเพดานราคาที่อยู่อาศัยที่ได้รับสิทธิลดค่าโอนและค่าจดจำนองเป็น 7 ล้านบาท จะส่งผลดี ต่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีโครงการระดับกลางจำนวนมาก(3-7 ล้านบาท/ยูนิต) เนื่องจากลูกค้าของโครงการกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงกว่าและสามารถเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้มากกว่าลูกค้าของโครงการโลว์-เอนด์ 

ฝ่ายวิจัยจึงคาดว่า SPALI,  AP,  ANAN,  SIRI,  QH, และ PSH น่าจะได้ประโชน์มากที่สุดจากมาตรการของรัฐ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีโครงการในสต็อกที่มีราคาตั้งแต่ 3-7 ล้านบาทประมาณ 26.2% -53.4% ของมูลค่าโครงการพร้อมขายในสิ้นปี 2566 อย่างไรก็ตาม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จะมี downside risk หากเศรษฐกิจมหภาคมีความไม่แน่นอนมากขึ้นและอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง ส่วน upside risk จะมาจากการผ่อนคลายเกณฑ์LTV

นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าการปรับบเพิ่มเพดานราคาที่อยู่อาศัย (จาก 3 ล้านบาทเป็น 7 ล้านบาท) ที่ได้สิทธิลดค่าโอนและค่าจดจำนองน่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายของผู้ประกอบการในกลุ่มอสังหาฯ รวมทั้งช่วยระบายสต็อกโครงการที่มีราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท/ยูนิต โดยศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (AREA) รายงานว่าที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท/ยูนิตที่ยังไม่ได้ขายออกไปมีสัดส่วนประมาณ 50% ของจำนวนยูนิตที่เปิดขายในกรุงเทพฯ ในปี 2566 

ส่วนที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท/ยูนิตที่ยังไม่ได้ขายออกไปมีสัดส่วนประมาณ 83% ของจำนวนยูนิตที่เปิดขายในกรุงเทพฯ ในปี 2566 ขณะเดียวกัน ที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7.5 ล้านบาทมีสัดส่วน 61.4% ของยอดโอนกรรมสิทธิ์ใน 9 เดือนแรกของปี 2566  และที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทมีสัดส่วน 41.4% ของยอดโอนกรรมสิทธิ์ใน 9 เดือนแรกปี 2566 ตามข้อมูลของศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัยแห่งชาติ