ทำความรู้จัก Energy Observer เรือที่ไม่ใช้น้ำมันแม้แต่หยดเดียว ที่สุดแห่งการล่องเรือรอบโลก !
ทำความรู้จักกับ เอเนอร์จี้ ออบเซอเวอร์ (Energy Observer) เรือแบบคาตามารัน (Catamaran) หรือเรือที่มีท้องเรือสองข้างเป็นคู่ขนานกัน (Double-hull) สัญชาติฝรั่งเศส มีความเร็วสูงสุดที่ 10 นอต หรือประมาณ 19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความยาวอยู่ที่ 30.5 เมตร กว้าง 12.8 เมตร น้ำหนัก 28 ตัน โดยเรือลำนี้กำลังอยู่ระหว่างเดินเรือรอบโลกอยู่ในปัจจุบัน แต่การเดินทางรอบโลกในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นเท่ากับการที่เรือลำนี้ ไม่ใช้น้ำมันแม้แต่หยดเดียวในการเดินเรือตั้งแต่ปี 2017 จนถึงปัจจุบัน
แหล่งพลังงานของเรือที่ไม่ใช้น้ำมันแม้แต่หยดเดียว
เรือคาตามารัน Energy Observer ใช้พลังงานสะอาดจาก 3 แหล่ง ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานจากไฮโดรเจน โดยตัวแผงโซลาร์เซลล์ซึ่งติดตั้งบนหลังคาเรือนั้นคิดเป็นพื้นที่กว่า 202 ตารางเมตร ให้กำลังการผลิตที่ 5.6 กิโลวัตต์ (kW) ส่วนใบเรือมีความสูง 8 เมตร ให้พื้นที่รับลม 31.5 ตารางเมตร
ในขณะที่ระบบไฮโดรเจนที่เป็นหัวใจสำคัญของเรือ ใช้ระบบเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel cell) ของบริษัท โตโยต้า (Toyota) หนึ่งในผู้พัฒนาระบบเชื้อเพลิงไฮโดรเจนชื่อดังของโลก ที่มาพร้อมกับถังเก็บไฮโดรเจนขนาด 332 ลิตร น้ำหนักรวม 63 กิโลกรัม ให้พลังงานที่ 1 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh)
การจัดสรรพลังงานของเรือที่ไม่ใช้น้ำมันแม้แต่หยดเดียว
หลักการผลิตพลังงานจะเริ่มจากการใช้แผงโซลาร์เซลล์รับแสงแดดเพื่อผลิตไฟฟ้าเก็บเข้าแบตเตอรี่ จากนั้นจะใช้ไฟจากแบตเตอรี่เพื่อสูบน้ำทะเลมาแยกน้ำด้วยไฟฟ้า (Electrolysis) เก็บไฮโดรเจนไว้ใช้ให้พลังงานกับมอเตอร์ของเรือ โดยระหว่างที่กำลังผลิตไฮโดรเจนจะใช้ใบเรือในการแล่นเรือ โดยไฟฟ้าจากทั้ง 3 แหล่ง จะหมุนเวียนใช้ทั้งกับตัวเรือ และระบบไฟฟ้าและประปาภายในเรือ เพื่อให้ลูกเรือทั้ง 5 คน รวมคนขับที่เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทและสร้างเรือลำนี้ขึ้นมา ให้สามารถเดินทางรอบโลกได้อย่างต่อเนื่อง
เรือ Energy Observer เริ่มออกเดินทางรอบโลกจากฝรั่งเศสในปี 2017 และเดินทางไปทั่วโลก เพื่อโปรโมตและพัฒนาโครงการด้านพลังงานสะอาดทุกประเทศที่เรือลำนี้เทียบท่า ซึ่งก็เคยมาเทียบท่าที่พัทยา ในปีที่แล้วด้วยเช่นกัน และล่าสุด วันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านม เรือลำนี้เทียบท่าอยู่ที่มาร์ตินิก (Martinique) จังหวัดโพ้นทะเลของฝรั่งเศสในแถบทะเลแคริบเบียน ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายตามแผนการท่องเที่ยวทวีปอเมริกา โดยไล่มาจากอเมริกาใต้จากประเทศบราซิล ก่อนที่ปี 2024 จะเป็นการเทียบท่าที่นครนิวยอร์กในสหรัฐอเมริกา ก่อนข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกกลับไปยังบ้านเกิดที่ปารีสต่อไปในปีเดียวกัน
ที่มาข้อมูล Energy Observer, Medium
ที่มารูปภาพ Energy Observer