รีเซต

ผลวิเคราะห์ดีเอ็นเอชี้ โครงกระดูกใน "บ้านช่างฝีมือ" เมืองปอมเปอี ป่วยวัณโรคกระดูกสันหลัง

ผลวิเคราะห์ดีเอ็นเอชี้ โครงกระดูกใน "บ้านช่างฝีมือ" เมืองปอมเปอี ป่วยวัณโรคกระดูกสันหลัง
บีบีซี ไทย
27 พฤษภาคม 2565 ( 14:25 )
92

ทีมนักวิทยาศาสตร์อิตาลีประสบความสำเร็จในการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งหมดหรือ "จีโนม" (Genome) ของชาวเมืองปอมเปอีบางรายได้เป็นครั้งแรก ทำให้ได้ทราบถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่ภูเขาไฟวีซูเวียสระเบิด เมื่อราว 1,950 ปีก่อนมากขึ้น รวมทั้งเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวโรมันโบราณได้เพิ่มขึ้นด้วย

 

รายงานวิจัยที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Scientific Reports ระบุว่ามีการศึกษาโครงกระดูกของชายหญิงคู่หนึ่ง ที่พบใน "บ้านช่างฝีมือ" (Casa del Fabbro) ของเมืองปอมเปอี โดยสามารถใช้เทคโนโลยีล่าสุดถอดรหัสพันธุกรรม และวิเคราะห์ดีเอ็นเอทั้งหมดของหนึ่งในสองร่างนั้นได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้การศึกษาพันธุกรรมของชาวเมืองปอมเปอีไม่อาจจะเป็นไปได้เลย เพราะชาวเมืองส่วนใหญ่เสียชีวิตจากกระแสความร้อนไพโรคลาสติก (Pyroclastic flow) จากภูเขาไฟ ซึ่งจะทำลายดีเอ็นเอทั้งหมด

 

อย่างไรก็ตาม การที่โครงกระดูกทั้งสองนี้เสียชีวิตจากการสูดหายใจเอาก๊าซพิษและเขม่าควันจากภูเขาไฟเข้าไป ทำให้สิ้นใจอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 20 นาที อีกทั้งศพยังถูกปกคลุมด้วยเถ้าถ่านภูเขาไฟเป็นชั้นหนา ทำให้ดีเอ็นเอในอวัยวะบางส่วนถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี โดยไม่ได้รับความเสียหายจากออกซิเจนและความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมภายนอก ตลอดระยะเวลาเกือบสองพันปีที่ผ่านมา

 

ผลการตรวจสอบดีเอ็นเอที่สกัดได้จากส่วนหนึ่งของกระดูกขมับ ทำให้ทราบว่าร่างโครงกระดูกความสูง 164.3 เซนติเมตร เป็นชายวัยกลางคนอายุ 35-40 ปี ศพของเขานอนอยู่ใกล้กับโครงกระดูกอีกร่างหนึ่งซึ่งเป็นหญิงตัวเตี้ยกว่า โดยท่าทางของทั้งคู่นั้นไม่เหมือนกับคนที่ตื่นตระหนกและพยายามจะหนีภัยภูเขาไฟระเบิดเลย

 

ดร. เซเรนา วีวา หนึ่งในทีมผู้วิจัยบอกว่า เหตุที่เป็นเช่นนั้นอาจเพราะชายคนดังกล่าวกำลังป่วยด้วยวัณโรคกระดูกสันหลัง ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือวานให้ผู้อื่นช่วยเคลื่อนย้ายได้ง่าย ๆ โดยทีมผู้วิจัยตรวจพบดีเอ็นเอของเชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium tuberculosis ซึ่งเป็นสาเหตุของวัณโรคในกระดูกของชายผู้นี้

 

ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับบันทึกประวัติศาสตร์ของชาวโรมันโบราณหลายฉบับ ซึ่งชี้ว่ามีการแพร่กระจายของวัณโรคในเมืองใหญ่หลายแห่งรวมทั้งปอมเปอี เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตของผู้คน จากการทำเกษตรในชนบทมาเป็นคนประกอบอาชีพต่าง ๆ ในเมืองที่ประชากรหนาแน่นและอยู่กันอย่างแออัด

 

นอกจากนี้ทีมผู้วิจัยยังได้เปรียบเทียบจีโนมของชายคนดังกล่าว กับพันธุกรรมของชาวยูเรเชียตะวันตกจากยุคโบราณ 1,300 คน รวมทั้งพันธุกรรมของคนภูมิภาคเดียวกันในยุคปัจจุบัน 451 คน จนพบว่าเขามีเชื้อสายของประชากรชาวอิตาลีกลุ่มหลักบนแผ่นดินใหญ่ แต่เจือปนด้วยพันธุกรรมของชาวแคว้นซาร์ดีเนีย ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ทางตะวันตกด้วยเล็กน้อย

 

ข้อมูลพันธุกรรมดังกล่าวยังชี้ว่า ชายผู้นี้เป็นพลเมืองทั่วไปของจักรวรรดิโรมัน ไม่ใช่ทาสรับใช้ซึ่งมักจะถูกนำตัวมาจากแคว้นอื่นที่อยู่ห่างไกลออกไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง