2 โบรกเกอร์ คาด CENTEL ฟื้นตัว มีปัจจัยหนุนการเติบโต

#หยวนต้า #กสิกร #ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย และ บล.หยวนต้า และ บล.กสิกร คาดการณ์ centel ดีขึ้น ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารฟื้นตัวจากปัจจัยบวกด้านการท่องเที่ยว

บล.หยวนต้าคาดการณ์ผลประกอบการ CENTEL ไตรมาส 3  ฟื้นตัวดี  เติบโตเด่นจากไตรมาส คาดการณ์กำไรปกติ 3Q66 ที่ 185 ล้านบาท (+124% QoQ, +587% YoY) จากปัจจัยดังนี้

1) ธุรกิจโรงแรมคาดรายได้ที่ 2 พันล้านบาท (+4% QoQ, + 32% YoY)

โรงแรมในไทย RevPar + 7% Q0Q ดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่โรงแรมในมัลดีฟส์ RevPar ยังอ่อนแอ จึงทำได้เพียงทรงตัว

2) ธุรกิจอาหารคาดรายได้ที่ 3.1 พันล้านบาท (-2% Q0Q, +6% YoY) หลังการเปิดประเทศ  อัตราการทำกำไรดีขึ้นเล็กน้อย จากไตรมาสก่อน หนุนจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ช่วงต้นไตรมาสยังมีการรับรู้ต้นทุนที่เป็นสต็อกเก่าราคาสูงอยู่บ้าง

3) คาด SG&A ที่ 1.7 พันล้านบาท (-1% QoQ, +2% YoY)

4) ต้นทุนการเงินคาดที่ 292 ล้านบาท (+7% Q0Q, +58% YoY) เพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และดอกเบี้ยจ่ายจากสัญญาเช่าโรงแรมใหม่ที่ญี่ปุ่น และรับรู้สัญญาเช่าใหม่ของโรงแรมที่หัวหินเต็มไตรมาส คงประมาณการ แต่ต้องจับตาความเสี่ยงที่อาจทำให้ปี 2567 มี Downside Risk หากผลประกอบการออกมาตามคาดของประมาณการทั้งปี 2566

ขณะที่แนวโน้ม ไตรมาส 4 คาดกำไรปกติเติบโตเด่นทั้ง ตามปัจจัยด้านฤดูกาลของโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ที่เข้า High Season ทำให้คงประมาณการปี 2566-2567 

ในขณะที่ บล.กสิกร คาดกำไร CENTEL สุทธิไตรมาส 3/ 2566 ดีขึ้น Q0Q คาดรายงานกำไรปกติไตรมาส 3/2566 ที่ 168 ลบ. เพิ่มขึ้น 39% Q0Q และพลิกกลับจากผลขาดทุนปกติที่ 78 ลบ. ในไตรมาส 3/2565

และมีรายได้ที่มากขึ้นจากการดำเนินงานในประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ รายได้และค่าใช้จ่ายในญี่ปุ่นไม่สัมพันธ์กันเนื่องจาก CENTEL บันทึกต้นทุนก่อนดำเนินการที่ 77 ลบ. ในไตรมาส 2/2566 ขณะที่โรงแรมในโอซาก้าเริ่มเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 3/2566 

ขณะเดียวกันปัจจัยที่พลิกให้กลับมารับรู้กำไรในเชิง YoY คาดว่าจะมาจากรายได้ที่มากขึ้นจากธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร คาดว่ารายได้รวมในไตรมาส 3/2566 จะอยู่ที่ 5.4 พันลบ. (+4% Q0Qและ +21% YoY) แบ่งเป็นรายได้โรงแรมที่ 2.4 พันลบ. (+16% Q0Q และ +56% YoY) และรายได้จากธุรกิจอาหารที่ 3.1 พันลบ. (-4% Q0Q และ +3% YOY)

บล.กสิกร คงคำแนะนำ "ถือ" CENTEL ด้วยราคาเป้าหมายที่ 47.15 บาท แม้ประมาณการกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปีนี้ คิดเป็นประมาณแค่ 64% ของประมาณการกำไรรวมทั้งปี